วัด มเหยงคณ์

สร้างเมื่อ : พ.ศ.1997 วัดไทยที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานีนั้น มีวัดอยู่หลายวัด ที่ทั้งเหล่าทหารหาญของไทย และทหารฝ่ายศัตรูใช้เป็นที่ตั้งทัพ วัดใดที่ถูกใช้เป็นที่ตั้งทัพของฝ่ายชนะ วัดนั้นก็รอดพ้นจากการถูกเผา ดังที่เราได้เห็นแล้วจากกรณี วัดหน้าพระเมรุที่ยังคงสภาพของงดงามตามแบบอยุธยาเดิมไว้ แต่วัดที่เหลือแทบจะทั้งหมดมิได้โชคดีอย่างวัดนี้ หากคงเหลือแต่ซากไว้เป็นอนุสรณ์สถานให้เราเท่านั้นวัดมเหยงคณ์ ก็เป็นวัดหลวงอีกวัดหนึ่งที่ไม่ได้โชคดีดัง วัดหน้าพระเมรุ แต่กระนั้นซากที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ยังทำให้เราได้สืบค้นอารยธรรมเดิมของถิ่นไทยได้ว่า วัดนี้เคยมีเจดีย์ช้างล้อมรอบถึง 80 เชือก จะสังเกตได้จากช้างปูนปั้นที่ปรักหักพังรอบๆ วัดทั้ง 4 ด้านที่สางไว้ ด้านละ 20 เชือก รวมแล้วก็เท่ากับจำนวนช้างที่มีพอดี คำว่า มเหยงคณ์นี้ แปลว่าภูเขาเนินดิน เป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) อันเป็นวัดที่สร้างถัดจาก วัดราชบูรณะ 14 ปี ในรัชสมัยเดียวกัน และวัดนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่โตกินบริเวณได้เท่ากับช้างล้อมรอบ 80 เชือกแล้ว หากแต่ยังมีโบสถ์อันโอ่งโถงที่จุพระสงฆ์ได้ราว 1,000 รูป มีเจดีย์อีก 14 องค์ และมีวิหารเล็กอีก 2 หลัง นับว่าวัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่โตมโหฬารทีเดียว ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ทรงโปรดเกล้าให้บูรณะปฏิสังขรณ์ วัดมเหยงคร์นี้ จึงได้ใช้เวลาร่วม 3 ปีกว่าจึงจะบูรณะแล้วเสร็จ และด้วยเหตุที่เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่นี้เอง วัดนี้จึงกลายเป็นที่ตั้งทัพชั่วคราวของบุเรงนองในคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ด้วย ปัจจุบันวัดมเหยงคณ์ เป็นวัดที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร เพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งอยู่ในโครงการการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของวัดด้วย และวัดนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมแต่อย่างใดสิริลักษณ์ จินตนะดิลกกุลทีมงานวันว่าง ท่านผู้อ่านมีคำแนะนำหรือติชมหรือคุยกับทีมงานวันว่างได้ที่ leisure@th.mweb.com