ที่สุดแห่งข้าวสาร

ที่สุดแห่งข้าวสาร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ที่สุดแห่งข้าวสาร โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 ตุลาคม 2547 โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

บ้านไม้หลังเก่าแก่สุดที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารต้มยำกุ้ง

สิบนิ้วน้อยๆของหนุ่มลูกทุ่ง ขอกล่าวสวัสดีมิตรรักนักอ่านพร้อมๆกับคอลัมน์ ลุยกรุง คอลัมน์ใหม่ที่จะมาบอกกล่าวเล่าตามประสาซื่อถึงเรื่องราวต่างๆของเมืองกรุงฯ (โดยเฉพาะเรื่องของการเที่ยว) ในอารมณ์แบบลูกทุ่ง ผสมผสานมุขที่อาจจะฝืดบ้าง ฟายบ้าง ในบางครั้ง แต่ว่าก็เป็นมุขที่จริงใจ และเท่าที่สังเกตเห็นมาก็คือไอ้เจ้ามุขพวกนี้ สาวๆย่านราตรีบันเทิงชอบกันนักแล โดยพวกหล่อนบอกว่ามันฟายดี ไหนๆก็พูดมาถึงย่านราตรีบันเทิงในเมืองกรุงฯที่บ้านฉันไม่มีแล้ว ก็อยากจะเล่าต่อว่าเดี๋ยวนี้ยามค่ำๆหลังเลิกงานฉันมักจะเดินไปดูสีสันยามราตรี ที่ถนนข้าวสารเป็นประจำ เหตุผลที่ไปเดินบ่อยก็เพราะว่า ข้อแรกถนนข้าวสารอยู่ใกล้ที่ทำงาน ข้อ 2 ที่ทำงานอยู่ใกล้ถนนข้าวสาร ข้อที่ 3 ถนนข้าวสารหลังการปรับปรุงใหม่ น่าเที่ยว น่าเดินขึ้นเยอะ ข้อที่ 4 เป็นผลต่อเนื่องมาจากข้อ 3 และเป็นข้อที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน ก็คือเมื่อถนนข้าวสารปรับปรุงใหม่ผลที่ตามมาก็ทำให้ในแต่ละคืนมีคนมา ตระเวนราตรีกันคึกคัก โดยเฉพาะสาวๆนี่มากันตรึมเลย!!!

และเมื่อไปเดินเล่นบ่อยๆ ฉันก็เลยได้ข้อสังเกตเกี่ยวกับความเป็นที่สุด 9 เรื่องของถนนข้าวสารมาฝากบรรดามิตรรักนักอ่าน แบบสบายๆไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไร เอาหล่ะ โม้มาเยอะแล้ว ฉันขอเริ่มที่สุดในข้าวสารด้วยเรื่อง บ้านเก่าที่สุด(1) ถ้าเป็นบ้านไม้ก็บ้านไม้เก่าที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านต้มยำกุ้ง บ้านหลังนี้เป็นบ้านขุนนางเก่า ส่วนบ้านปูนเก่าสุดก็บ้านที่ทำเป็นร้าน Side walk บ้านทั้ง 2 หลังมีอายุไล่เลี่ยกันคือประมาณเกือบ 100 ปี เห็นจะได้

อ้อ!!! ฉันเกือบลืมบ้านตึกเก่าอีกหลัง ที่อายุความเก่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 2 บ้านแรกก็คือ บ้านเก่าตระกูลไกรจิตติ ย่านซันเซ็ทสตรีท ซึ่งถือเป็นย่านใหม่ที่สุด(2)ในข้าวสาร ที่นอกจากจะมาแรงแล้ว บรรยากาศที่นี่ก็น่านั่งด้วยกลุ่มอาคารเก่าโทนสีเหลืองสดใส โดยเพื่อนฉันที่เป็นสถาปนึก เอ้ย!!! สถาปนิกบอกว่าตึกใหญ่ที่ย่านซันเซ็ทเขาเรียกกันว่าตึกสไตล์อาร์ตนูโว ฉันก็รับฟังด้วยความงงๆ เพราะไม่รู้จริงว่าอาร์ตนูโวนี่เป็นยังไง รู้แต่ว่าวงนูโวนี่แก่แล้วแต่ก็ยังพยายาม กลับมาร้องเพลงอีก ส่วนอาคารที่ใหญ่ที่สุด(3) ก็คงจะไม่มีที่ไหนเกินตึกบัดดี้ลอดจ์ ที่ชั้นล่างเป็นพลาซ่า ชั้น 2 เป็นบัดดี้เบียร์ ส่วนชั้นบนเป็นโรงแรมที่ว่ากันว่าหรูที่สุดและแพงที่สุดเอาไว้รับพวกลูกค้าต่างชาติมีตังค์

ผัดไทรถเข็นเมนูยอดนิยมที่หากินได้ทั่วไปบนถนนข้าวสาร

สำหรับเรื่องที่สุดลำดับต่อไป ต้องรอให้วิกาลดึกซักหน่อย( 5 ทุ่มขึ้นไป) แล้วค่อยย่างกรายเข้าไปในนั้น แล้วเราๆท่านๆก็จะรู้ว่า ซูซี่ผับ (Susie pub) นั้นเป็นสถานที่ที่มีคนเยอะที่สุดบนถนนข้าวสาร(4) เยอะขนาดที่แทบจะไม่มีที่ยืน แต่ถ้าถามว่าในเมื่อคนเยอะขนาดนี้แล้วทำไมคนถึงนิยมไปกันอีก เรื่องนี่ฉันก็ตอบไม่ได้ แต่จำได้ว่าตอนที่ซูซี่เปิดใหม่ๆ ลูกค้า 80 % เป็นชาวต่างชาติ แต่เดี๋ยวนี้เหตุการณ์กลับตาลปัตรคนไทยเข้าไปเที่ยวซูซี่กันเกือบ 90 % ทีเดียว ฉันขอสลับอารมณ์มาที่เรื่อง อาหารยอดนิยมที่สุด(5) ในช่วงนี้และช่วงเกือบปีที่ผ่านมา คงไม่มีเมไหนฮอตฮิตติดลมบนเท่ากับผัดไทรถเข็น ราคาประหยัด 10 บาท 15 บาท จะนั่งกิน เดินกินก็อิ่มทั้งนั้น ส่วนเมนูที่รองลงมาก็เห็นจะเป็นข้าวไข่เจียว 10 บาท นี่ก็กินง่ายและอิ่มท้องไม่แพ้กัน เวลาฉันไปเดินถนนข้าวสารแล้วเกิดหิวขึ้นมาคราใด ผัดไทนับเป็นเมนูแรกสุดที่ถูกถามหา ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นการกินไปเดินดูสาวไป และเมื่อเดินไปเดินมาหลายๆครั้ง ฉันก็สังเกตว่าที่นี่มีสาวฝรั่งบึบบับเยอะมั่กมั่ก เอ้ย!!! ไม่ใช่ ที่สังเกตเห็นก็คือตลอด 2 ข้างทางของถนนข้าวสารและในตรอกซอกซอยมีเอเย่นต์ทัวร์เยอะมาก ครั้นสอบถามไปทางผู้ที่เกี่ยวข้องก็ถึงได้รู้ว่าที่นี่มีเอเย่นต์ทัวร์เยอะที่สุดในเมืองไทย(6) คือช่วงถนนประมาณ 300 กว่าเมตร มีเอเย่นต์ทัวร์เกือบ 500 เจ้าเห็นจะได้

แฟชั่นช่วงนี้ที่มาแรงเห็นจะไม่มีอะไรเกินแฟชั่นทำผม

นอกจากจะมีเอเย่นทัวร์เยอะสุดแล้ว บน 2 ฟากถนนข้าวสารหากใช้สายตามองซ้ายมองขวาสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าแฟชั่นยอดฮิตที่สุด(7) ก็จะหนีไม่พ้นแฟชั่นทำผม ซึ่งจะพบเห็นได้ทั่วไป มีทั้งถักผม ต่อผม ทำเดรด ล็อก ให้บริการทั้งคนไทยและเทศ ส่วนแฟชั่นที่เคยฮิตแต่ตอนนี้เสื่อมความนิยม แต่ว่าก็ยังมีให้เห็นอยู่ประปรายก็คือแฟชั่นสัก ที่น่าแปลกว่าสาวๆนิยมไปใช้บริการมากกว่าผู้ชาย ทีนี่ก็มาถึงเรื่องที่สุดของถนนข้าวสารที่ไม่ค่อยมีคนรู้ก็คือ ช่วงกลางวันถนนข้าวสารถือเป็นแหล่งขายเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย(8) และก็เปิดขายมานานแล้วด้วย แต่หากว่าเห็นร้านขายเครื่องเงินเหล่านั้นเป็นร้านเล็กๆ ก็อย่าได้แปลกใจไป เพราะส่วนมากเขาเน้นขายส่งโดยมีโรงงานอยู่ต่างจังหวัด หากใครไม่เชื่อก็ลองไปเดินดูช่วงกลางวันได้

เหตุการณ์ดำเนินมาถึงความเป็นที่สุดอันดับที่ 9 ซึ่งฉันเลือกเอาเรื่องราวที่ข้าวสารเป็นถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองไทย เป็นการปิดท้าย เหตุผลนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เพราะในไกด์บุ๊คต่างชาติไม่ว่าเล่มไหนๆต่างก็บรรจุถนนข้าวสารไว้ให้เป็นศูนย์กลางแห่งย่านต่างชาติในเมืองไทย เมื่อมาถึงเมืองไทยควรตั้งต้นจากข้าวสารก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังที่ต่างๆ สำหรับ 9 เรื่องที่สุดของข้าวสารนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสีสันในถนนข้าวสารที่ยังคงมีเรื่องราวอีกมากมายให้เล่าขาน ส่วนที่ฉันคัดเลือกมาแค่ 9 เรื่อง ทั้งๆที่ยังมีเรื่องราวของความเป็นที่สุดมากกว่านี้ ก็ไม่มีอะไรมากเพียงแต่ว่าตามประสาคนลูกทุ่ง ถือเคล็ดถือโชค เลข 9 ถือเป็นเลขสวยที่หวังว่าจะช่วยให้คอลัมน์นี้ก้าวหน้าตามไปด้วย ยังไงๆใครที่ไปเดินข้าวสารหากเจออะไรเป็นที่สุดก็เก็บมาบอกเล่ากันได้ เพราะตอนนี้ ฉันพยายามหา สาวงามที่สุดแห่งข้าวสารแต่ก็จนใจที่ยังหาไม่ได้ซักที เหตุที่หาไม่ได้นี่ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ แต่ว่าเวลาไปเดินถนนข้าวสารทีไรฉันเจอสาวงามเยอะไปโม้ด เลยไม่รู้ว่าจะยกตำแหน่งสาวสวยที่ซู๊ดแห่งข้าวสารให้กับใครดี * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ย้อนอดีตถนนข้าวสาร ถนนข้าวสาร เดิมเป็นย่านเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นตรอกที่ขายข้าวสารจริง ๆ นอกจากนี้ก็ยังขายถ่านหุงข้าว ของชำ โดยถัดออกไป 1 ถนน จะเป็นคลองที่ต่อมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเรือที่ส่งข้าวสารต่าง ๆ จะผ่านมาในคลอง แล้วก็เอาข้าวสารขึ้นเพื่อจะนำมาขายที่ร้านแถวถนนข้าวสาร ซึ่งพอมีร้านขายข้าวสารเยอะ จึงเรียกว่าตรอกข้าวสาร (เพราะขนาดเล็ก) ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นถนนข้าวสาร หลังจากนั้นก็เริ่มเกิดชุมชนขึ้น และขยายไปเรื่อยๆ พอเป็นชุมชน ก็เริ่มมีร้านขายของมากขึ้น เช่นร้านขายของเล่น อย่างลูกข่าง ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ และประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีฝรั่งเข้ามามาถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด โดยมีทีมงานกองถ่ายมาอยู่กันจำนวมาก พวกนั้นก็เริ่มมาเช่าที่ เช่าเกสเฮาส์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มี ก็ต้องเช่าจากบ้านที่อยู่แถวนั้นซึ่งใช้แบ่งเช่า พอมีคนมาเริ่มมาจุดชนวน หลังๆ ก็เริ่มมีคนเข้ามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นศูนย์รวมของพวกแบ็คแพ็กเกอร์ที่มาเที่ยวเมืองไทย ก่อนที่จะมาปรับเปลี่ยนรูปแบบอีกทีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลายเป็นย่านบันเทิงยามราตรีที่สำคัญของกรุงเทพฯ หากใครสนใจอยากรู้แหล่งบันเทิง สถานที่ท่องเที่ยว และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับถนนข้าวสารเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร 0-2629-5170

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook