25 UNSEEN New Series แหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย สวยอันซีนแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน!

เพจ Amazing Thailand เพจส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของเมืองไทยได้ประกาศรายชื่อ 25 UNSEEN New Series ที่เที่ยวสุดอันซีนทั่วเมืองไทยในซีรีส์ใหม่ของปี 2564 นี้ โดยทั้ง 25 ที่นี้ได้ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ทุกๆ คนเห็นภาพจะต้องตื่นตาตื่นใจ และอยากจะไปตามรอยกันอย่างแน่นอน จะมีที่ไหนบ้าง ลองไปชมกันครับ

ภาคกลาง

1.พระพุทธรูปหินลาวา วัดถ้ำกระบอก จ.สระบุรี

วัดถ้ำกระบอกเป็นอีกหนึ่งวัดสวยของจังหวัดสระบุรี มีไฮไลต์อยู่ที่ พระพุทธรูปหินลาวา ที่สร้างด้วยหินแร่ต่างๆ จากทั่วประเทศ นำมาหลอมด้วยความร้อนสูงจนละลายกลายเป็นลาวา ก่อนนำมาขึ้นรูปเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีดำในอิริยาบถต่างๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

2.เจดีย์พระธาตุโบอ่อง จ.กาญจนบุรี

บ้านโบอ่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆ  ตั้งอยู่บนเกาะในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีสถานที่สำคัญอยู่ที่ เจดีย์พระธาตุโบอ่อง ที่สร้างอยู่บนยอดเขาหินปูนเล็กๆ บนเกาะกลางน้ำ

3.วนอุทยานเขานางพันธุรัต จ.เพชรบุรี

วนอุทยานเขานางพันธุรัตมีพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เที่ยวชมอย่าง จุดชมวิวกระจกนางพันธุรัต ลักษณะเป็นช่องเขาขนาดใหญ่ สามารถเดินลอดช่องกระจกและจะพบกับวิวธรรมชาติแบบพาโนรามา

4.วัดป่าสัก จ.ชัยนาท

วัดป่าสักเป็นที่ตั้งของตะกรุดยักษ์มหารอด ที่หล่อจากทองเหลืองบริสุทธิ์ทั้งองค์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 79 ซม. ความยาวตลอดทั้งองค์ 299 ซม. และมีน้ำหนักมากถึง 4 ตัน นับเป็นวัตถุมงคลขนาดมหึมา คนสามารถขึ้นไปลอดในตัวตะกรุดได้เพื่อความเป็นสิริมงคล

5.เขาทะลุมิติ จ.ราชบุรี

เขาทะลุมิติ คือ ฉายาของถ้ำเขาทะลุ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของราชบุรี ลักษณะเป็นโพรงถ้ำมองดูคล้ายซุ้มประตู โดยต้องเดินเท้าขึ้นเขาสูงชัน ซึ่งรับรองว่าวิวเขาทะลุมิติจะทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ภาคเหนือ

1.ถ้ำแม่ละนา จ.แม่ฮ่องสอน

ถ้ำขนาดใหญ่มีความท้าทายในระดับยากถึงยากมาก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวที่สามารถพิชิตถ้ำนี้ได้เพียง 70-100 คน ทำให้ธรรมชาติภายในถ้ำยังคงความสมบูรณ์ หินงอก หินย้อย ม่านหิน เสาหิน ยังคงเจริญเติบโต (มีชีวิต) และเปล่งประกายระยิบระยับสวยงาม 

2.เขาล่องเรือตาหมื่น จ.พิษณุโลก

เขาล่องเรือตาหมื่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ท้าทายให้สายลุยไปพิชิตยอดเขาหินปูน ชมวิวแปลกตาของป่าหินลอยฟ้าแบบ 360 องศา

3.วัดหลวงขุนวิน จ.เชียงใหม่

วัดเก่าแก่สมัยพุทธกาลที่สร้างจากพลังศรัทธา ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าลึก มีบันไดนาคขนาดใหญ่ทอดขึ้นไป พระอุโบสถถูกปกคลุมไปด้วยมอสส์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้ปางจงกรมแก้ว แกะสลักมาจากไม้ใหญ่ต้นเดียว มีความวิจิตรสวยงามอย่างยิ่ง

4.ม่อนหมอกตะวัน จ.ตาก

ม่อนหมอกตะวันเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนยอดดอยบ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ.ตาก ในฤดูฝนจะได้สัมผัสทะเลหมอก และในฤดูหนาวจะได้ชมทุ่งดอกเสี้ยนฝรั่งสีสวยเต็มยอดดอย

5.วัดนันตาราม จ.พะเยา

วัดเก่าแก่ประจำชุมชนชาวไทยใหญ่ในอำเภอเชียงคำ ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระประธาน ปางมารวิชัย พุทธลักษณะแบบศิลปะมัณฑะเลย์ (เมียนมา) หากลองสังเกตดีๆ ที่รูปแกะสลักด้านหลังพระประธานจะมีรูปแกะสลักคิวปิด (Cupid) กามเทพตัวน้อย ประดับอยู่ 8 องค์ เป็นจุด UNSEEN ที่น่าค้นหา

ภาคใต้

1.เกาะผ้า จ.พังงา

เกาะผ้าเป็นเกาะเล็กๆ ห่างจากฝั่งบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ประมาณ 10 กม. ทั้งเกาะมีแต่หาดทรายสีขาว มองดูคล้ายผืนพรมกลางทะเลอันดามัน โดยจะเผยให้เห็นยามน้ำทะเลลดต่ำจนสันทรายของเกาะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้น

2.กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จ.สตูล

กองหินขาวเป็นแท่งหินสีขาว ตั้งอยู่กลางทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ด้านใต้ผืนน้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปะการังอ่อนหลากสี กัลปังหากว่า 10 ชนิด และปลาน้อยใหญ่อีกถึง 80 ชนิด

3.ถ้ำธารลอด จ.ชุมพร

ถ้ำธารลอดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสีทองปางมารศรีวิชัยองค์ใหญ่ หันพระพักตร์สู่วิวทะเลหมอกตระการตาในยามเช้ามองดูคล้ายประตูสวรรค์ที่สวยงาม และโดยรอบยังถูกโอบล้อมด้วยผาหินสูงตระหง่านคล้ายกำแพงป้อมปราการสุด UNSEEN

4.คลองหรูด คลองน้ำใส จ.กระบี่

คลองหรูดเดิมเป็นคลองน้ำจืดสายเล็กๆ ชื่อ คลองหนองทะเล ที่มีลักษณะคล้ายป่าพรุที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ต่อมามีการขยายทางน้ำทำให้ลำคลองเล็กๆ กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ น้ำใสสะอาด กลายเป็นจุดพายเรือคายักชมธรรมชาติที่สวยงาม

5.เกาะหมาก จ.พัทลุง

เกาะหมากเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลสาบสงขลา เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานที่ยาวไม่ถึง 100 เมตร บนเกาะเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวประมงที่ผูกพันกับธรรมชาติมาเป็นเวลานาน รวมทั้งมีผืนป่าและทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรรมชาติ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะหมากที่แท้จริง

6.เกาะยือลาปี จ.ปัตตานี

เกาะยือลาปี หรือ เกาะเล่าปี่ เป็นเกาะหินเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลปัตตานี โลกใต้น้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทุ่งกัลปังหาสีชมพูที่หาชมได้ยาก ปะการัง ดอกไม้ทะเล และเป็นแหล่งชุมนุมของปลานานาชนิด

ภาคตะวันออก

1.สวนพฤกษศาสตร์ จ.ระยอง

สวนพฤกษศาสตร์ระยองเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติ ประกอบด้วย ป่าพรุ หนองบึง และป่าบก รวมถึงเป็นแหล่งอาศัยของนกนานาชนิด มีไฮไลต์อยู่ที่ ป่าเสม็ดพันปี ส่วนใหญ่เป็นต้นเสม็ดขาวขึ้นอยู่บนพื้นดินที่มีน้ำท่วมขัง นักท่องเที่ยวนิยมพายคายักหรือล่องเรือชมวิวธรรมชาติ

2.หุบเขาไดโนเสาร์ (Dinosaur Valley) สวนนงนุช จ.ชลบุรี

หุบเขาไดโนเสาร์ (Dinosaur Valley) สวนนงนุช เป็นสถานที่รวบรวมรูปปั้นไดโนเสาร์ทุกสายพันธุ์มากกว่า 230 ชนิด จำนวนมากถึง 814 ตัว มีความเหมือนจริงในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสีผิว ลวดลาย รอยย่นของผิวหนัง ท่ายืน และขนาดเท่ากับฟอสซิลที่มีการบันทึกไว้ กลายเป็น จูราสสิก เวิลด์ ในโลกแห่งจริง

3.พระจมน้ำ เขาระกำ จ.ตราด

พระจมน้ำ หรือ พระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย เป็นพระพุทธรูปสูงกว่า 5 เมตร ที่จมอยู่ในน้ำกลางอ่างเก็บน้ำเขาระกำ โดยในอดีตจุดที่ตั้งของพระพุทธรูปเคยเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์เขาระกำ ก่อนจะมีการสร้างเพิ่มพื้นที่อ่างเก็บน้ำเพิ่มจนทำให้น้ำท่วมถึง และกลายเป็นจุดที่ชาวบ้านเรียกว่า พระจมน้ำ อย่างในปัจจุบัน

4.จุดชมวิวเขาบ่อเตย จ.จันทบุรี

จุดชมวิวเขาบ่อเตยอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี มีจุดอันซีนอยู่ที่ ลานหินสีชมพู ที่จะเห็นชัดเจนในช่วงที่มีแสงแดดกระทบ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

ภาคอีสาน

1.พญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร

ชาวมุกดาหารมีความเชื่อและนับถือศรัทธาองค์พญานาค โดยมีพญานาคศักดิ์สิทธิ์ 3 องค์ ตัวแทนจาก 3 พิภพ เป็นที่สักการะขอพร ได้แก่ องค์แรก พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช เป็นพญานาคดิน ตั้งอยู่ที่แก่งกะเบา องค์ที่ 2 พญาอนันตนาคราช เป็นพญานาคน้ำ ตั้งอยู่บริเวณศาลปู่พญานาค สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และองค์สุดท้าย พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช เป็นพญานาคฟ้า ตั้งอยู่ที่ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์

2.โลกของช้าง จ.สุรินทร์

โครงการโลกของช้าง หรือ Elephant World เป็นโครงการใหญ่บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ติดกับ ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวของช้าง เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางวิชาการของช้าง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกี่ยวกับช้างแบบครบวงจร

3.โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา

โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาเป็นที่ตั้งของ “เมืองลอยฟ้า” จุดชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งกังหันลมจากอ่างพักน้ำตอนบนเขายายเที่ยง รวมถึงเป็นที่ตั้งของ “เมืองใต้พิภพ” ที่อยู่ลึกไปใต้ผิวดินกว่า 350 เมตร เป็นอุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน จุดเช็คอินที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

4.หอโหวด จ.ร้อยเอ็ด

แลนด์มาร์คใจกลางเมืองร้อยเอ็ด สถาปัตยกรรมได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “โหวด” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานและเครื่องดนตรีประจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยที่นี่เป็นหอสูงชมเมืองสูง 35 ชั้น ความสูง 101 เมตร ภายในมีทางเดินบนพื้นกระจกบนชั้น 34 ที่สามารถชมทัศนียภาพเมืองร้อยเอ็ดแบบ 360 องศา

5.ภูพระ จ.เลย

ภูพระเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางขุนเขา เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปปางสมาธิสีขาว จำนวนกว่า 1,250 องค์ ภายในอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยในช่วงฤดูทำนา จะเห็นวิวทุ่งนาขั้นบันไดเป็นฉากหลังสวยงาม