10 เบื้องหลังสุดอลัง กว่าจะมาเป็น Ballet on Ice การแสดงบัลเลต์สเก็ตน้ำแข็งระดับโลก
กลับมาอีกครั้ง กับมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีหนึ่งเดียวของกรุงเทพฯ อย่าง Bangkok’s 21st International Festival of Dance and Music ที่ในปีนี้ นอกจากจะอัดแน่นด้วยโชว์ที่หลากหลายประเภทจากศิลปินท็อปลิสต์ระดับโลกแล้ว ยังมีไฮไลท์อยู่ตรงปรากฏการณ์เปลี่ยนเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้กลายเป็นน้ำแข็ง เพื่อให้คุณได้ชมการแสดงบัลเลต์สเก็ตน้ำแข็งระดับโลกเรื่อง Cinderella on Ice และ Swan Lake on Ice กันแบบอลังการจุใจ จากฝีมือการวาดลวดลายของนักสเก็ตน้ำแข็งระดับโลกคณะ The Imperial Ice Stars แห่งสหราชอาณาจักร ที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม
สำหรับโชว์ Cinderella on Ice นั้น เปิดการแสดงเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2008 และออกทัวร์เปิดการแสดงมาแล้ว 22 ประเทศทั่วโลก จนเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในการแสดงบนเวทีน้ำแข็งที่มีการทุ่มทุนสร้างและใช้ความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฉาก การออกแบบเครื่องแต่งกาย การใช้อุปกรณ์เทคนิคพิเศษ รวมถึงฝีไม้ลายมือของนักแสดงทั้ง 35 คน ที่กว่า 20 คน เป็นเจ้าของดีกรีแชมป์โลก และเคยคว้ารางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวมาแล้ว
ส่วน Swan Lake on Ice ก็เป็นการหยิบเอาดนตรีประกอบบัลเลต์ชื่อดังของไชคอฟสกี้อย่าง Swan Lake มาบอกเล่าเป็นเรื่องราวความรักสุดคลาสสิค ถ่ายทอดผ่านท่วงท่าที่ทั้งอ่อนช้อยและแข็งแรงในคราวเดียวกันของนักสเก็ตน้ำแข็งมืออาชีพ ผ่านการออกแบบท่าเต้นบนเวทีน้ำแข็งขึ้นใหม่ โดย โทนี่ เมอร์เซอร์ ผู้อำนวยการด้านศิลปะของคณะ The Imperial Ice Stars ที่กล้ายืนยันว่า ต่อให้คุณเคยชมการแสดงชุด Swan Lake มาก่อน ก็จะต้องประทับใจในความแปลกใหม่และสง่างามขึ้นอีกระดับของการวาดลีลาบนเวทีน้ำแข็งโดยฝีมือของเหล่านักสเก็ตน้ำแข็งระดับโลก ที่ร่วมกันปลุกพลังให้เหล่าพญาหงส์ดูราวกับมีชีวิตแหวกว่ายอยู่บนผิวน้ำจริงๆ โดยมีรางวัล Best Special Entertainment Awards จาก Manchester Evening News การันตีคุณภาพ
และต่อให้คุณคิดว่าตัวเองรู้จักเรื่องราวของซินเดอเรลล่ากับสวอนเลคดีแล้ว เราเชื่อว่าคุณก็ยังคงอดทึ่งไม่ได้ กับ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังงานสร้างสุดอลังการ กว่าจะออกมาเป็น Cinderella on Ice และ Swan Lake on Ice และคงหายประหลาดใจว่า ทำไมการแสดงทั้ง 2 ชุดนี้ถึงได้ยิ่งใหญ่และครองใจมหาชนมาแล้วทั่วโลก
1. คณะบัลเลต์สเก็ตน้ำแข็ง The Imperial Ice Stars ตระเวนเปิดการแสดงสร้างความสุขและความบันเทิงแก่ผู้ชมทั่วโลกมาแล้วเกือบ 4 ล้านคน ใน 5 ทวีป อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี สเปน ฮอลแลนด์ เบลเยียม ฟินแลนด์ โมนาโก แอฟริกาใต้ แคนาดา รัสเซีย โรมาเนีย ฮังการี เซอร์เบีย หรือแม้แต่บนเวทีกลางแจ้งท่ามกลางอุณหภูมิร้อนระอุกว่า 40 องศาเซลเซียสในเกาะไซปรัส The Imperial Ice Stars ก็เคยฝากฝีมือให้ประจักษ์มาแล้ว
2. สมาชิกของคณะบัลเลต์สเก็ตน้ำแข็ง The Imperial Ice Stars ร่วมเดินทางไปเปิดการแสดงด้วยกันเฉลี่ยเป็นระยะทางกว่า 185,000 กิโลเมตร โดยสารเครื่องบินโบอิ้ง 747 เป็นเวลารวม 230 ชั่วโมง หรือเท่ากับเดินทางรอบโลกได้ถึง 5 รอบเลยทีเดียว
3. เวทีน้ำแข็งที่จะถูกเนรมิตขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีน้ำหนัก 14 ตัน หรือหนักประมาณช้าง 3 เชือก และต้องใช้น้ำอีกกว่า 2,500 ลิตร เทียบเท่ากับปริมาณน้ำที่ใช้เติมในระบบรถยนต์ 100 คันได้สบายๆ
4. Cinderella on Ice เป็นการแสดงโชว์บนน้ำแข็งที่ลงทุนสูงที่สุด เพราะต้องทำฉากสามมิติที่มีทั้งไฟ ฝน การลอยตัว และใช้โปรเจกชั่นอีกเพียบ โดยฉากหรูหราและอุปกรณ์ประกอบฉากทั้งหมดออกแบบโดย Eamon D’Arcy นักออกแบบฉากอาวุโสผู้เคยรับผิดชอบการแสดงในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวซิดนีย์ 2000 และเอเชียนเกมส์ 2006 ที่โดฮา Eamon เป็นหนึ่งในนักออกแบบฉากตัวท็อปแห่งออสเตรเลีย ผู้อยู่เบื้องหลังงานสร้างสรรค์ฉากบนเวทีละคร งานเต้นรำ และละครเพลงในโรงละครของออสเตรเลียและเอเชียมานานกว่า 25 ปี
5. เครื่องแต่งกายหรูหรากว่า 77 ชุดใน Cinderella on Ice ออกแบบโดย Albina Gabueva ดีไซเนอร์ชาวรัสเซีย ผู้เป็นหัวหน้าทีมออกแบบแห่งโรงละคร Stanislavsky โดยใช้เวลาในการออกแบบและตัดเย็บนานกว่า 1 ปี และไม่มีชุดไหนซ้ำกันเลย แต่ละชุดผ่านการออกแบบและตัดเย็บโดยแผนกเสื้อผ้าแห่งคณะบัลเลต์ระดับโลกอย่าง Bolshoi Ballet โดยมีอยู่ 10 ชุดด้วยกันที่แต่ละชุดมีมูลค่ากว่า 4,000 ปอนด์ เพราะใช้เนื้อผ้าคุณภาพดีและต้องอาศัยศิลปะในการตัดเย็บที่ประณีตซับซ้อน
6. ฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ ถูกสร้างขึ้นในเมลเบิร์นและซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก่อนขนใส่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต เพื่อล่องเรือไปยังประเทศต่างๆ ที่จะทำการเปิดการแสดง โดยต้องใช้แรงงานคนในการประกอบอุปกรณ์ต่างๆ ถึงกว่า 6,000 ชั่วโมง
7. เพลงประกอบในการแสดง Cinderella on Ice ประพันธ์โดย Tim A Duncan และ Edward Barnwell โดยใช้เวลากว่า 9 เดือนในการแต่งและเรียบเรียงเสียงเปียโนและออเคสตร้า ที่บรรเลงโดยคณะออเคสตร้า 72 ชิ้น อย่าง Moscow State Cinematic Orchestra และเครื่องดนตรีเดี่ยว 11 ชิ้น จาก Manchester Symphony Orchestra ร่วมด้วยฝีมือของ Tim และ Edward ในการเล่นเปียโน และ David Alexander บรรเลงเครื่องเคาะ รวมทั้งสิ้นใช้เวลา 3 วันในการบันทึกเสียงผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัย เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
8. การแสดง Swan Lake on Ice ใช้เสื้อผ้ามากถึง 110 ชุด คิวไฟ 143 คิว ฉากบิน 22 คิว และเปลี่ยนฉากถึง 7 องก์
9. นักแสดงทั้งหมดต้องฝึกซ้อมด้วยกันอย่างน้อยวันละ 9 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ นาน 7 สัปดาห์ ก่อนเปิดการแสดง และต้องซ้อมอีก 3 ชั่วโมงก่อนเริ่มแต่ละโชว์ในทุกๆ วัน
10. ในการไปทัวร์แต่ละครั้ง ใช้รองเท้าสเก็ต 26 คู่ และใบมีด 52 ใบ
ทำความรู้จักเบื้องหลังงานสร้างและการทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์โชว์บนลานน้ำแข็งให้ออกมาดีที่สุดของคณะ The Imperial Ice Stars กันไปแล้ว เราว่าคุณคงอยากจองตั๋วแล้วรีบไปรับชมความประทับใจให้เห็นกับตา หรือถ้าอยากชมการแสดงอื่นๆ เช็คข้อมูลล่วงหน้าได้ที่ http://www.bangkokfestivals.com
Cinderella on Ice เปิดการแสดงในวันเสาร์ที่ 28 ก.ย. 62 (เวลา 14.30 น. และ 19.30 น.) และวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย. 62 (เวลา 14.30 น.) บัตรราคา 1,200/ 1,700/ 2,000/ 2,500 และ 3,000 บาท ซื้อบัตรได้ที่
https://www.thaiticketmajor.com/presale/performance/icp2019-cinderella-on-ice.html
Swan Lake on Ice เปิดการแสดงในวันพฤหัสที่ 26 ก.ย. 62 (เวลา 19.30 น.) และวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. 62 (เวลา 19.30 น.) บัตรราคา 1,200/ 1,700/ 2,000/ 2,500 และ 3,000 บาท ซื้อบัตรได้ที่
https://www.thaiticketmajor.com/presale/performance/icp2019-swan-lake-on-ice.html
(Advertorial)