วรรณภัสสรโฮมสเตย์ กินอยู่กับธรรมชาติสัมผัสวิถีชาวบ้านที่แท้จริง

หากพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร แน่นอนว่าสิ่งแรกๆ ที่ทุกคนมักจะนึกถึงนั่นก็คือท้องทะเล ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทะเลชุมพรนั้นมีความสมบูรณ์และงดงาม 

แต่ที่จริงแล้วชุมพรไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้น เพราะในวันนี้ Sanook! Travel เราจะพาทุกคนเดินทางไปทำความรู้จักกับโฮมสเตย์แห่งหนึ่งที่จะเติมเต็มความสุขให้แก่คุณด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้ใบหญ้า ของกินอร่อยๆ และวิถีชุมชนที่มีเสน่ห์ ณ วรรณภัสสรโฮมสเตย์ 

วรรณภัสสรโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ขนาดย่อมที่สร้างขึ้นในพื้นที่บ้านพักของพี่เจี๊ยบ วรรณภัสสร ผู้ก่อตั้งโครงการโฮมสเตย์วรรณภัสสรแห่งนี้ขึ้นมา โดยเมื่อได้เข้ามาภายในบริเวณบ้านของพี่เจี๊ยบนั้นเราจะรู้สึกได้ถึงความร่มรื่น และเป็นกันเอง ความรู้สึกเวลาไปเที่ยวบ้านสวนของญาติๆ ในตอนเด็กๆ ก็ชวนให้กลับมาคิดถึงอีกครั้งจริงๆ 

พี่เจี๊ยบพาเราเดินทัวร์รอบบ้าน ซึ่งมีหลายส่วนทั้งส่วนที่เป็นบ้านไม้หลังเก่า และโซนปฏิบัติการของพี่เจี๊ยบ ซึ่งพี่เจี๊ยบใช้ห้องนี้ในการทำแชมพู สบู่ และโลชั่น โดยทุกผลิตภัณฑ์ที่พี่เจี๊ยบทำนั้นล้วนสร้างสรรค์มาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ทำใช้เอง ขายเอง โดยได้ลูกมือมาจากในครอบครัวของตัวเอง เป็นธุรกิจครอบครัวที่สะอาด ปลอดภัย และสามารถสร้างรายได้ได้จริงอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติของพี่เจี๊ยบที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ซึ่งพี่เจี๊ยบก็ได้สอนและให้พวกเราผู้มาเยือนได้ลงมือทำผลิตภัณฑ์แชมพู และสบู่ด้วยตัวเองกันด้วย สร้างความสนุกสนานให้แก่พวกเราทุกคน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่

ต่อมาพี่เจี๊ยบพาเรานั่งรถไปที่สวนของน้องสาวพี่เจี๊ยบ ซึ่งเป็นสวนต้นแบบที่ใช้เนื้อที่เพียงหนึ่งไร่แต่ปลูกพืชผักเอาไว้ได้อย่างหลากหลาย โดยสวนแห่งนี้ เป็นดั่งตลาดสดสำหรับมื้อเย็นของเรา 

ที่นี่แบ่งการทำเกษตรเป็นหลายสัดส่วน มีส่วนที่เป็นโซนเลี้ยงสัตว์ มีทั้ง เป็ด ไก่ และเจ้าลิงตัวน้อยที่นั่งเท่ เฝ้าเล้าไก่อยู่

และโซนอื่นๆ จะเป็นโซนของพืชผักสวนครัวที่สามารถเด็ดมาทานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นยอดผักหวาน พริกขี้หนูสวน มะละกอ มะเขือ ฝักทอง เป็นต้น เรียกได้ว่าอยากทานอะไรก็ไปหยิบไปเด็ดเอาได้เลย เป็นหนึ่งในโปรแกรมสุดชิลที่คนชอบทำอาหารและชอบความร่มรื่นของไร่สวนต้องชอบมากแน่นอน

ต่อมาพี่เจี๊ยบพาเราไปทานข้าวกลางวันที่สวนลุงนิล ซึ่งลุงนิลก็คือพ่อของพี่เจี๊ยบนั่นเอง โดยมาที่นี่เราจะได้ความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงจากลุงนิล ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่สืบทอดมาให้แก่พวกเราได้อย่างน่าสนใจมากๆ เมื่อนั่งพูดคุยกับลุงนิลกันจนถึงเวลาทานข้าวแล้ว คุณลุงคุณป้าก็ช่วยกันยกกับข้าวมาให้พวกเราทาน ซึ่งวันนี้เราได้ลองทานทั้งอาหารใต้แท้ๆ และส้มตำแบบใต้ๆ ด้วย รสชาติจัดจ้านอร่อยทุกสิ่ง เพิ่มพลังให้ยามบ่ายให้แก่เราอย่างดีเยี่ยม

เมื่อทานข้าวกันเสร็จแล้วลุงนิลก็พาเราไปเดินชมสวน ซึ่งนี่ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นสวนแล้ว เพราะนี่คือผืนป่าแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ สวนลุงนิลมีความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ ที่คอยให้ร่มเงาแก่พวกเราทุกคนตลอดทางเดิน 

มีต้นไม้หายากหลากหลายให้เราได้รับชม ระหว่างทางเราก็ได้ไกด์กิตติมศักดิ์นั่นก็คือลุงนิลคอยช่วยอธิบายและให้ข้อมูลต้นไม้แต่ละต้นให้แก่เรา บางข้อมูลที่ได้รับรู้มาเกี่ยวกับต้นไม้แต่ละต้นนั้น ทำให้หลายๆ คนถึงอับอึ้งไปเลยทีเดียว

 

เมื่อเดินเล่นในสวนกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาบอกลาลุงนิลเพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีต่อไป นั่นก็คือ สวนของพี่เจี๊ยบนั่นเอง โดยในสวนของพี่เจี๊ยบนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าและกว้างขวางกว่า สวนของน้องสาวแก ที่เราไปกันในตอนเช้า

ภายในสวนมีพันธุ์ไม้หลากหลาย ให้เราได้เดินเก็บกันแบบเต็มที่ เหมือนมาเดินช็อปปิ้งอยู่ในซูปเปอร์มาร์เก็ตเลยก็ว่าได้ ซึ่งในสวนพี่เจี๊ยบนี้เราได้วัตถุดิบเพิ่มเติมจากตอนเช้ามาหลายอย่างเลย เช่นใบเหลียง ส้มจี๊ด กล้วย และยอดผักหวาน เป็นต้น 

เดินเก็บวัตถุดิบกันจนพอใจแล้วก็ได้เวลากลับไปสู่ฐานที่มั่นบ้านพี่เจี๊ยบเพื่อทำกิจกรรมต่อไป 

เมื่อมาถึงบ้านพี่เจี๊ยบทุกคนต่างแบ่งหน้าที่กัน ไปล้างผัก ไปจัดเตรียมวัตถุดิบเนื้อสัตว์ เมื่อถึงเวลาทุกคนต่างมารวมกันอยู๋ในครัวบ้านพี่เจี๊ยบเพื่อเตรียมตัวทำอาหารจากวัตถุดิบผัดสดๆ ที่ได้ไปร่วมกันเก็บมาในวันนี้ 

เมนูอาหารของเราในวันนี้ได้แก่ ยำผักหวาน ใบเหลียงผัดไข่ ผัดกระเพราหมู น้ำพริกกะปิ ชะอมไข่ทอด สะตอผัดกุ้ง และไข่ลูกเขย ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือไม่นานกับข้าวทุกอย่างก็พร้อมเสิร์ฟลงบนโต๊ะ

เป็นภาพที่ดูอบอุ่นและน่าประทับใจอย่างมาก เหมือนได้มาเที่ยวบ้านญาติจริงๆ ทุกคนล้อมวงกันทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย และยิ่งอร่อยฟินขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่ากับข้าวทุกจานนี้ล้วนผ่านมาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

ทานข้าวแบบบ้านๆ ใต้ชายคาของบ้านไม้ยกพื้นสูงที่มีลมพัดเย็นๆ ผ่านมาตลอด ท่ามกลางบรรยากาศที่พระอาทิตย์กำลังลดระดับของแสงลง ผู้คนรอบตัวต่างถูกแต้มไว้ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

ความสุขที่ไร้ซึ่งความวุ่นวายดั่งเช่นในเมืองกรุง ความสุขที่ได้หลุดพ้นจากโลกโซเชี่ยลกันไปชั่วขณะและหันหน้ามาคุยมาเล่นกันในชีวิตจริง เป็นความสุขตามแบบวิถีชีวิตของชาวบ้านที่หลายๆ คนหลงลืมไป

การได้ลองมาใช้ชีวิตในแบบชาวบ้านจริงๆ มาลองทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง มาลองสัมผัสกับความเป็นมาเป็นไปของชีวิต ทำให้เราได้ซึมซับและเรียนรู้ความสุขจากชุมชนอย่างแท้จริง เป็นอีกหนึ่งโฮมสเตย์ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่มาเที่ยวชุมพรแล้วอย่างจะลองมาสัมผัสบรรยากาศแบบบ้านๆ แบบนี้ รับรองว่าคุณจะถูกที่นี่สร้างความทรงจำดีๆ กลับไปแน่นอนครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้งวรรณภัสสรโฮมสเตย์ : 60 ม.2 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร

ติดต่อ : 087 914 2142

เว็บไซด์ : wanapatsonshop

ราคาวันเดย์ทริป : 900 บาท ต่อคน