รีวิวเส้นทางไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ด้วยรถเมล์ฟรี ต้อนรับเทศกาลเข้าพรรษา!!

รีวิวเส้นทางไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ด้วยรถเมล์ฟรี ต้อนรับเทศกาลเข้าพรรษา!!

รีวิวเส้นทางไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ด้วยรถเมล์ฟรี ต้อนรับเทศกาลเข้าพรรษา!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำบุญทั้งหลาย ใกล้เข้าสู่ช่วงเข้าพรรษาวันหยุดยาวแล้ว หลาย ๆ คนอาจกำลังวางแผนเดินทางเพื่อไปแสวงบุญตามที่ต่าง ๆ

แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ไปไหนหรือไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัด คุณก็สามารถทำบุญ 9 วัดได้แบบประหยัดค่าใช้จ่าย แถมยังได้เที่ยวแบบฟรี ๆ ในเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ด้วยรถเมล์ฟรีนั่นเอง

messageimage_1499400165049

ข้อดีของการอยู่กรุงเทพในช่วงเทศกาลคือรถไม่ติด เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าหากเดินทางไหว้พระ 9 วัดด้วยรถเมล์แล้วจะเจอปัญหารถติด

รับรองว่าเต็มอิ่มจุใจ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งเที่ยว ภายในวันเดียว ก็สามารถมีความสุขได้เช่นกัน เราไปดูกันว่า เส้นทางไหว้พระ 9 วัดด้วยรถเมล์ฟรีมีไปที่ไหนกันบ้าง

โดยต้นสายจะเริ่มต้นที่สถานีขนส่งหมอชิต แล้ววิ่งออกไปสู่อนุสาวรีย์ และวิ่งวนรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อเยี่ยมชมวัดต่าง ๆ ทั้ง 9 วัด รถออกจากหมอชิต 2 เวลา คือ 8.00 - 17.00น.

1.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

ben

เริ่มต้นที่แรกกันด้วยวัดเบญมบพิตร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด เดิมชื่อ วัดแหลม หรือ วัดไทรทอง

ภายหลังได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใหม่ว่า วัดเบญจบพิตร ซึ่งหมายถึง วัดของเจ้านาย 5 พระองค์ที่ทรงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้

ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน และมีกลิ่นอายของรัตนโกสินทร์คงไว้อยู่ถึงปัจจุบันจริง ๆ

2.วัดสามพระยา วรวิหาร

sam

วัดสามพระยา เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ชาวบ้านในละแวกนั้นบ้างก็เรียกชื่อวัดว่า วัดสัก หรือ วัดบางขุนพรหม สันนิษฐานว่า สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

ถือเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นโดยพี่น้องร่วมบิดามารดา ประกอบด้วย พระยาราชภักดี (สิงห์ทอง) พระยาเทพอรชุน (ทองปาน) และพระยาราชวรานุกูล (ทองคำ) รวมสามคนพี่น้อง

ตามประวัติ บิดาท่านชื่อ มะทอเปิ้น อพยพมาจากรามัญประเทศ แต่ มารดาท่านไม่ปรากฏนาม พี่น้องทั้งสาม ได้จัดสร้างวัดนี้ขึ้นใหม่ แล้วเสร็จจึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายเป็นวัดหลวง

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มอบพระราชทานนามวัดว่า “วัดสามพระยา”

3.วัดบวรนิเวศวิหาร

borwon

วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก โดยความสำคัญของวัดนี้คือเป็นที่นี่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์

ในด้านสถาปัตยกรรมวัดบวรนิเวศวิหารมีสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสำคัญอยู่ 2 องค์เป็นพระประธาน คือ พระพุทธสุวรรณเขต (หลวงพ่อโต) ที่อัญเชิญมาจากวัดสระตะพานจังหวัดเพชรบุรี

และพระพุทธชินสีห์ อัญเชิญมาจากวิหารทิศเหนือ วัดพระศรีรนัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ใต้ฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร

เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเคยผนวช ณ วัดนี้เมื่อยังทรงดำรงพระอิสริยยศที่สยามกุฎราชกุมาร

4.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

winwar

วัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยาไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง เดิมเรียกว่าวัดกลางนา ต่อมาถูกยกสถานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์

มีปูชนียสถานที่สำคัญอย่าง พระประธานในพระอุโบสถ มีนามว่า พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแล้วบุด้วยดีบุกลงรักปิดทอง

ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.50 เมตร สูง 3.50 เมตร ประดิษฐานบนฐานสูง 1.30 เมตรมีพระอัครสาวกซ้ายขวานั่งประนมมือ 2 องค์ เป็นพระปูนปั้นเช่นกัน

และ เจดีย์ทรงจอมแห 2 องค์ อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถและเจดีย์ทรงกลม 2 องค์อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นต้น

5.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

mahatat

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อวัดสลัก สร้างในสมัยอยุธยาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

เมื่อทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี เป็นวัดที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนาเพราะเป็นสถานที่ทำสังคยานาในปี พ.ศ.2331 และเป็นที่ประทับของพระสังฆราช

นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่เป็นที่พระราชทานเพลิงพระบุพโพเจ้านายซึ่งดำรงพระเกียรติยศสูง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย 

6.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

watpo

วัดโพธิ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย

เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551

และวันที่ 16 มิถุนายน 2554 ทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติ

นอกจากนี้วัดโพธิ์ยังถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์ ในแง่ของการท่องเที่ยวแล้ว

วัดโพธิ์ได้รับความนิยมเที่ยวเป็นลำดับที่ 24 ของโลก ในปี พ.ศ. 2549 โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนในปีนั้นถึง 8,155,000 คน

7.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

watpakeaw2

วัดพระแก้ว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกของไทย เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาร่าชโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2325

เป็นวัดในพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต

พระคู่บ้านคู่เมืองของแผ่นดินสยามที่พบ ณ วัดป่าเยี้ยะ(ป่าไผ่) จ.เชียงราย

ภายในวัดจะมีจิตรกรรม ปฏิมากรรม และสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงาม เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง เป็นวัดที่ชาวโลกต่างยอมรับในด้านความงดงามของศิลปะ

และเป็นจุดมุ่งหมายที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักจะมาเยี่ยมชมหากเดินทางมาประเทศ ไทย ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของไทยจริง ๆ

8.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

sutat

เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ.2350 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” โปรดเกล้าฯ

ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัยพระพุทธตรีโลกเชษฐ์

ในด้านสถาปัตยกรรม พระอุโบสถของวัดสุทัศน์ จัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย พระประธานภายในพระอุโบสถ คือ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย

ทั้งพระอุโบสถและพระประธานนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ผนังด้านในของพระอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนังฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 3 ซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นซุ้มยอดเจดีย์ มีลักษณะแปลกตาและงดงามมาก

ภายในพระวิหารมีภาพวาดบนเสาด้านข้างขององค์พระศรีศากยมุนี มีรูป เปรต ตนหนึ่งนอนพาดกายอยู่และมีพระสงฆ์กำลังยืนพิจารณาสังขาร ซึ่งภาพนี้มีชื่อเสียงมากในสมัยอดีต เรียกได้ว่าใครไปวัดสุทัศต้องไปชมภาพเปรตนี้

 9.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

watsaket

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหารตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา

เดิมชื่อวัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ

ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี

และปูชนียสถานที่สำคัญของวัดสระเกศอันเป็นที่โด่งดังไปทั่วนั่นก็ คือพระบรมพรรพต หรือ ภูเขาทองที่ประชนชาวไทยนับถือนั่นเอง

ใครที่กำลังหาโปรแกรมท่องเที่ยวและทำบุญสำหรับช่วงเข้าพรรษานี้ โปรแกรมการไหว้พระด้วยรถเมล์ฟรีนี้เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่่น่าสนใจ

คุณจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมของเกาะรัตนโกสินทร์อย่างครบถ้วน ที่สำคัญยังไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกด้วย

 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ รีวิวเส้นทางไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ด้วยรถเมล์ฟรี ต้อนรับเทศกาลเข้าพรรษา!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook