ฮักนะเมือง "น่าน"

สวัสดีปีใหม่2560 ครับ ปีใหม่นี้ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างเอ่ย? ส่วนผมกะไว้ว่าหยุดปีใหม่จะนอนอยู่บ้านชิวๆ แต่ที่ไหนได้โดนเพื่อนลากไปเที่ยวซะงั้น

ด้วยทริปฟ้าผ่านี้เกิดขึ้นเพียง2นาทีในการตัดสินใจ "ไปกางเต้นนอนดอยเสมอดาวกัน ไปถ่ายช้าง"

ไอ้เราก็ไม่เคยถ่ายทางช้างเผือกเลย ก็เลยตกหลุมพลางติดกับดักไปกับพวกเลย ผมออกเดินทางจากเชียงใหม่ไปถึงดอยเสมอดาวก็พระอาทิตย์ตกพอดีเลยได้รูปมา 2-3 ใบ ไม่เป็นไรๆ รอถ่ายทางช้างเผือกเอาละกัน

หลังจากแสงเย็นหมดเราก็จัดแจงกางเต้นนอนสำหรับคืนนี้ ด้วยอากาศที่กำลังเย็นสะบายๆ มื้อเย็นนี้ก็หนีไม่พ้นหมูทะและน้ำยอดข้าวครับ 5555 เผลอแพลบเดียวก็ 2 ทุ่มกว่าๆ ช้างเริ่มโผล่ออกมาให้เราถ่ายกัน ถ่ายไปถ่ายมาปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่ม

ขอบอกเลยว่าบนดอยหนาวมากลมพัดเย็นสุดๆ ถ่ายไปสั่นไป แต่ได้รูปสวยๆมาก็คุ้มมากเลยครับ ผมเอารูปทางช้างเผือกมาฝากด้วยน้าาาาาา

หลังจากฟินสุดๆ ก็กลับมานอนกัน พร้อมตั้งปลุกไว้ตี 4 เพื่อที่จะมาเก็บดาวสวยๆพร้อมทะเลหมอกในยามเช้าอีกรอบ เกือบตื่นไม่ไหวเหมือนกันครับ เพราะหนาวมาก

ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า ผมเคยดอยเสมอดาวครั้งนึงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สมัยนั้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูปเลย แต่ประทับใจมาก บนดอยเสมอดาวนั้นเราสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน กลางคืนเราจะสามารถมองเห็นดาวนับล้านๆดวง

และในตอนเช้าเราสามารถสัมผัสกับแสงแรกของวันพร้อมทะเลหมอกแสนสวย บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆครับ ปีนี้กลับมาอีกรอบพร้อมกล้องตัวน้อย เลยได้เก็บภาพสวยๆไว้เพียบเลย และหวังว่าจะหลอกเพื่อนคนอื่นๆมาอีกบ้าง อิอิ

หลังจากสนุกม่วนงันกับทริปหลักบนดอยเสมอดาวแล้ว เราก็ยังเหลือเวลาอีกครึ่งวันที่จะมีเวลามาเก็บภาพเล็กๆน้อยๆของเมืองน่านมาฝากครับ

โดยเริ่มจากแวะเก็บภาพกับเสาดินนาน้อย ประติมากรรมธรรมชาติที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำ เป็นเสาดินรูปร่างต่างๆ สวยไปอีกแบบนึงนะครับ แต่บอกเลยว่าร้อนมาก เจอหนาวบนดอย มาเจอร้อน ทำเอาไข้ขึ้นกันเลยทีเดียว

เราแวะทานข้าวเที่ยงที่ร้่นน้ำเงี้ยว ข้าวซอยแม่สุณี ร้านอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองน่านเลยครับ ถ้ามีโอกาสได้มาเมืองน่านต้องมาแวะร้านนี้เลยครับ อร่อย จิ้กคอนเฟิร์มค่ะ

อิ่มจากมื้อเที่ยงเราก็แวะชิวๆกันที่ร้านกาแฟ คาเฟ่ สุดกองดี เป็นร้่นที่ตกแต่งได้อย่างร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ นั้งจิบกาแฟพร้อมชมบรรยากาศของริมฝั่งแม่น้ำน่าน เส้นเลือดหลักของคนเมืองน่าน

จากนั้นเราเดินทางต่อไปยัง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน และพระธาตุประจำปีเกิดคนเกิดปีเถาะ หรือปีกระต่ายตามความเชื่อของคนล้านนา

เรียกได้ว่าถ้ามาเมืองน่านแล้วไม่มาไหว้พระธาตุแช่แห้งเหมือนมาไม่ถึงเมืองน่านนะครับ

มาถึงน่านแล้วไม่มาชมภาพจิตรกรรม "กระซิบรัก บันลือโลก"ก็คงไม่ได้นะครับ ปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์อันเป็นผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ

ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ปราณีตและเป็นภาพที่โดดเด่นประจำวัดภูมินทร์ โดยเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบสนทนา และมีชื่อเสียงว่าเป็นภาพ "กระซิบรักบันลือโลก

เรายังได้มีโอกาสเดินลัดเลาะไปชมพระธาตุช้างค้ำ ในวัดพระธาตุช้างค้ำด้วยนะครับ ปูชนียสถานสำคัญ เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย

ภายในวัดประดิษฐาน เจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 รอบเจดีย์มีรูปปั้นช้างปูนปั้นเพียงครึ่งตัว ประดับอยู่โดยรอบ พระธาตุเจดีย์สร้าง ด้วยอิฐถือปูน มีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา ฐานจากชั้นแรกสูงถึงชั้นสองมีรูปช้างค้ำ

อยู่ในลักษณะ เหมือนฐาน รองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก ช้างแต่ละตัวโผล่ส่วนหัวลอย ออกมาครึ่งตัวขาหน้าทั้งคู่ยื่นพ้นออกมาจาก เหลี่ยมฐาน เหนือขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ (ฐานบัว) ซ้อนกัน 3 ชั้น

และเป็น องค์ระฆังแบบลังกา ต่อจากองค์ระฆังทำเป็นฐานเขียงรองรับ มาลัยลูกแก้ว ลดหลั่นกันไปเป็นส่วนยอด ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำได้รับการบูรณะซ่อมแซม และหุ้นด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์มีความสวยงาม มาก

ก่อนกลับบ้าน เราเลยถือโอกาสขึ้นไปชมตัวเมืองน่านจากวัดพระธาตุเขาน้อย จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน

ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

น่าน จังหวัดเล็กๆที่มากด้วยศิลปวัฒธรรม และธรรมชาติที่งดงาม หากมีโอกาสผมคิดว่าน่านจะเป็นอีกที่นึงที่รอให้คุณไปสัมผัสนะครับ 

เรื่อง/โดย : ภาคิน พึ่งบัว