6 จุดไฮไลท์บนดอยอินทนนท์ตามเส้นทางพิพิฒน์

6 จุดไฮไลท์บนดอยอินทนนท์ตามเส้นทางพิพิฒน์

6 จุดไฮไลท์บนดอยอินทนนท์ตามเส้นทางพิพิฒน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงความเย็นสบายต้องนึกถึงดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ยอดดอยที่สูงที่สุดในไทย และยอดเขาที่ขึ้นง่ายสุดของไทยด้วย เพราะสามารถขับรถยนต์ขึ้นยอดดอยได้เลย ตลอดเส้นทางหมายเลข 1009 มีที่เที่ยวมากมาย ตาม 6 จุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดบนเส้นทางเที่ยวดอยอินทนนท์ ครั้งนี้ “นายรอบรู้” มีโอกาสไปเที่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ที่จัดทริปเต็มตามรอยพิพัฒน์ อัศจรรย์แห่งขุนเขา (ชวนกันแอ่วดอย ตามรอยพ่อหลวง)

1. ทักทายพระอาทิตย์ตอนเช้า ถ้าไม่อยากพลาดซีนนี้ต้องตื่นเช้าเพื่อขึ้นดอยอินทนนท์ให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น แล้วรอเวลาแสงแรกจากจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุดแห่งหนึ่งคือจุดจอดรถทางขึ้นกิ่วแม่ปาน เพราะเป็นพื้นที่เปิดมองได้ไกลสุดสายตา ยิ่งมาในช่วงที่แสงที่จับขอบฟ้าเป็นเส้นตรงเหลืองทองอร่าม ในบริเวณนี้มีร้านขายข้าวต้มและกาแฟให้คลายหนาว เพราะตอนเช้าอากาศจะหนาว

2.กิ่วแม่ปาน จากจุดจอดรถสามารถเดินเข้าไปในกิ่วแม่ปานได้ มีระยะทางประมาณ 3 กม. ช่วงแรกผ่านป่าดิบเขา มีสะพานไม้ข้ามลำธาร จากนั้นก็จะทะลุสันกิ่วแม่ปานที่เป็นทุ่งหญ้า มองเห็น อ. แม่แจ่ม เดินไปอีกนิดจะพบดงกุหลาบพันปีที่ราวต้นเดือน ม. ค. – ก.พ.จะออกดอกสีแดงพราวไปทั้งต้น ตลอดเส้นทางจะพบกับพืชหลากหลายชนิดตั้งแต่เฟินไม้เล็กๆอย่างมะยมดอย ต่าไก่ป่า บางช่วงยังมีเห็ดรูปร่างแปลกตาด้วย

3.ยอดดอยอินทนนท์ จากกิ่วแม่ปานนั่งรถขึ้นบนยอดดอยอินทนนท์ บริเวณยอดดอยเรียกว่าอ่างกาหลวง เนื่องจากมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำขังตลอดปีและมีหินก้อนใหญ่รูปทรงเหมือนกาตั้งอยู่

จากลานจอดอันเป็นที่ตั้งสถานีเรดาห์ของกองทัพอากาศ เดินขึ้นไปซักพักจะเจอป้าย “สุงสูดแดนสยาม” ที่ต้องรอคิวแคปเจอร์กันนานซะหน่อย ถัดไปเป็นเจดีย์บรรจุพระอัฐิของเจ้าอินทวีชิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และเป็นที่มาของดอยอินทนนท์

จากนั้นเป็นจุดหมุดแสดงความสูงสุดจากระดับน้ำทะเลของดอยอินทนนท์ซึ่งสูง 2565.3341 ม. ไม่ไกลกันเป็นสะพานไม้ที่ตัดผ่านป่าดิบเขาที่ปกคลุมด้วยมอส เฟินดูคล้ายป่าดึกดำบรรพ์ เดินได้สักพักจะเจอกับร้านกาแฟและพุ่มดอกกุหลาบพันปี

4. พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนพภพภูมิสิริ ทางเข้าค่อยข้างจะแคบ ในช่วงเทศกาลรถต้องรอคิวขึ้นกัน เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบกับสองเจดีย์คือพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนพภพภูมิสิริ ตามประวัติในปี 2530 กองทัพได้สร้างพระมหาธาตุนถเมทนีดลขึ้นเพื่อเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทางพระเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ต่อมาในปี 2535 ก็ได้จัดสร้างพระมหาธาตุนภพลราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนามเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ทั้งสองเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดปลี การขึ้นชมบนเจดีย์ปัจจุบันมีสร้างบันไดเลื่อนสำรับขาขึ้น บริเวณรอบพระมหาธาตุทั้งสองตกแต่งจัดสวนอย่างงดงาม เป็นจุดทิวทัศน์ชมทะเลหมอกในช่วงเช้าและถ้าฟ้าเปิดจะมองเห็น อ. แม่แจ่มด้วย

5. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ (โทร.0-5328-6777-8) จากทางหลวงหมายเลข 1009 เลี้ยวมาจากทางหลวงหมายเลข 1284 เข้ามายังบ้านแม่ขุนกลาง ที่นี้แม้จะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้เสร็จเพื่อพัฒนาชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่ ปี 2522 จนเกิดเป็นสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ขึ้น

เพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาเพาะปลูกพืชเมืองหนาวจนสร้างรายได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันทางสถานีเกษตรหลวงฯได้นำเอาปลาเทราต์เรนโบว์และปลาสเตอเจียนซึ่งเป็นปลาในเขตหนาวเข้ามาเลี้ยงเพาะพันธุ์ จนสำเร็จสามารถเพาะพันธุ์ได้แล้ว ปลาทั้งสองปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของน้ำบนดอยอินทนนท์ได้ โดยน้ำจะต้องเป็นน้ำไหลผ่านจากน้ำตกสิริภูมิซึ่งเป็นน้ำจากตาน้ำที่สะอาด ส่วนใครกลัวว่าปลาเทราต์และปลาสเตอเจียนซึงเป็นเอเลี่ยนสปีชีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับระบบนิเวศบนดอยอินทนนท์ ทางสถานีเกษตรหลวงได้ป้องกันโดยสร้างบ่อที่แข็งแรงและมีตะแกรงเหล็กกันปลาว่ายหนีเข้าสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

อย่างที่รู้กันว่าปลาสเตอเจียนสามารถให้ไข่ที่นำมาทำ คาเวียร์ ได้แต่ใครจะรู้ว่าไข่ปลาเทราต์ก็ทำคาเวียร์ได้เช่นกัน จริงๆ คาเวียร์ (Caviar) แปลว่าไข่ปลาที่ปรุงรสแล้ว แต่คาเวียร์ที่รสเลิศต้องเป็นปลาสเตอร์เจียน แต่ทางสถานีเกษตรหลวงสามารถผลิตได้เป็นคาเวียร์สีดำและสีส้มเหลือง เจ้าหน้าที่บอกว่า คาเวียร์สีดำได้จากปลาสเตอร์เจียนที่เลี้ยงดูอย่างดีถึง 9ปี ถึงจะมาทำคาเวียร์ได้

ภายในสถานีเกษตรหลวงฯ ยังจัดสวนแสดงไม้ดอกและพืชเมืองหนาวอย่างสวยงาม ที่ห้ามพลาดคือสวนสิริภูมิเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์เฟินทั้งของไทยและต่างประเทศ ไม้ดอก และพืชกินแมลง หลายคนมักชอบมาถ่ายรูปตรงบ่อน้ำกลางสถานีซึ่งมีกังหันน้ำและหงส์ 2 ตัว สีขาวและสีดำว่ายอวดโฉมรอให้เชลฟี่ด้วย รอบๆบึงปลูกก่วมแดงหรือที่รู้จักว่า “เมเปิ้ล” ในช่วงหน้าหนาวจะออกใบสีแดงสวยงาม

ส่วนใครที่อยากลิ้มลองรสชาติของปลาเทราต์เรนโบว์และปลาสเตอร์เจียนแนะนำให้มาที่ร้านอาหารของสถานีเกษตรหลวงฯ นำมาทำเป็นสเต็กปลาสเตอร์เจียนกินกับผักสลัดและปลาเทราต์ทอดกระเทียมเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ด ปิดท้ายด้วยพานาคอตต้าสตรอเบอร์รี่

6. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง (โทร.0-5331-8333)จุดน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของเส้นทางดอยอินทนนท์คือศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ตั้งขึ้นเพื่อสนองนโยบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงมีพระราชประสงค์ต้องการพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขาทั้งม้งและชาวปกาเกอะญอ

ในปื 2528เป็นศูนย์วิจัยทดลองไม้ดอกและไม้เมืองหนาว เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนบนเทือกเขาถนนธงชัยซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,300-1,400 ม. จึงมีอากาศหนาวตลอดปี ปัจจุบันภายในโครงการมีเส้นทางดอกไม้ระยะทางประมาณ 1 กม.

ทิวต้นนางพญาเสือโคร่งที่สาดสีชมพูสะพรั่งราวเดือน ม.ค. – ก.พ. หลายคนจึงมักมองหามุมสวยๆ โพสต์เก๋ๆกับฉากสีชมพูหวานซึ่งตัดกับฟ้าสีคราม หรือบางคนก็เดินชมความพราวฟรุ้งฟริ้งยามที่ตัวดอกต้องสีทองของแดดยามเช้า ยิ่งเวลาเดินอยู่แล้วกลีบดอกพัดปลิวไปตามกระแสลมก่อนที่ร่วงลงพื้นเป็นพรมผืนปูลาดไปถนน เป็นช่วงเวลาสุดโรแมนติกที่หาได้จากในชีวิตจริง

นอกจากทิวดอกนางพญาเสือโคร่งแล้วทางโครงการยังมีแปลงทดลองไม้เมืองหนาวอีกมากมายที่ปลูกหมุนเวียนไปตามฤดูกาล จากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางใช้เส้นทาง 1248 แล้ววิ่งเข้าทางหลวงหมายเลข 1013 เพื่อเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เลย

สอบถามเพิ่มเติมเรื่อง ตามรอยพิพัฒน์ อัศจรรย์แห่งขุนเขา "ชวนแอ่วดอย ตามรอยพ่อหลวง" ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0-5324-8604-5 

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ 6 จุดไฮไลท์บนดอยอินทนนท์ตามเส้นทางพิพิฒน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook