เมื่อผู้ชายนวลๆ ชวนไป "ฮักเลย" @ เชียงคาน

เมื่อผู้ชายนวลๆ ชวนไป "ฮักเลย" @ เชียงคาน

เมื่อผู้ชายนวลๆ ชวนไป "ฮักเลย" @ เชียงคาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสียงเรียกจากน้องดอกอ้อ

ณ คืนวันศุกร์ ในห้องเช่าเก่าๆ กลางเมืองขอนแก่น เสียงฝนตกลงบนหลังคาสังกะสีฮ่างๆ เปอะแปะๆคลอเสียงอึ่ง โอบอาบ โอบอาบ...

ระหว่างนั้งอ่านรีวิวในห้องบลูคลอเสียงเพลงลูกทุ่ง....แล้วก็ได้ยินเสียงเพลงนี้ขึ้นมา....

“โอ้ละหนอ หนาวลมที่แดนอีสาน

สวยตระการ ดอกอ้อบานเป็นทิวขาวโล่ง

เหมือนปุยสำลี แต้มแต่งสีทั่วแนวฝั่งโขง

แว่วแผ่วพิณตะลิดติ๊ดต่ง เรือน้อยล่องโขงผู้บ่าวเว้าสาว

โอ้ละหนอ คิดถึงดอกอ้อตาหวาน

สาวเชียงคาน จากบ้านไปบ่มีแม้ข่าว

สายัณห์ค่ำแลง แดดอ่อนแสงเฮาเคยหยอกเย้า

สัญญาท่ามกลางลมหนาว ว่าเจ้าบ่ลืมหนุ่มน้อยเชียงคาน...”

แม่เจ้า...เพลงอีหยังคือม่วนคัก ม่วนหลาย ม่วนกระด้อกระเดี้ย...

พลันให้หลับตานึกไปว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ริมฝั่งโขง อากาศเย็นสะบาย สายลมอ่อนๆพัดมากระทบหนังแขนดำๆ ดอกอ้อสีขาวนวลๆกระทบแสงแดดอ่อนๆสีเหลืองทองในยามเย็นโบกไหวไปมาหยอกล้อลู่ลม แว่วเสียงพินแคนลอยมาตามลม เรือลำน้อยลอยล่องโขงเห็นอยู่ไกลๆ

โอ้ยฟิน....

ทันใดนั้น...ไฟในห้องก็ดับลงพร้อมเสียงใบพัดของพัดลมเก่าๆตีกรอบซี่พัดลมตังแต๊กๆๆๆๆๆ ก่อนจะหยุดหมุน

...ตื่นจากมโนความฟินกันเลยทีเดียว

"เชียงคาน...มันอยู่ส่วนไหนของโลก?" ผมคิดขึ้นมาดังๆในใจ

เปิดแผนที่คู่ใจในโทรศัพท์...200กว่าโลเอง

รออะไรละครับ ไฟดับทำไรก็ไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ พรุ่งนี้วันหยุดอีก...

เก็บกระเป๋าไปตามหาน้องดอกอ้อดีกว่า....

จากขอนแก่น ถึงเชียงคาน

การเดินทางจากขอนแก่นไปเชียงคาน ผมใช้เส้นทางขอนแก่น-ชุมแพ-เลย-เชียงคาน ครับ

ออกจากขอนแก่นประมาณตีหนึ่งกว่าๆ

ตลอดทางที่ขับผ่าน มีหมอกปกคลุมเป็นระยะๆ โอ้ยหนอ...คือฟินแท้

เป็นถนน 2 เลนส์ สลับกับถนน 4 เลนส์ เป็นระยะๆ

ผมมาฮอดเลยประมาณตี3 กว่าๆ....โอ้โหว??? คือเช้าไปไหมเนี๊ยะ....

ตอนแรกคิดไว้ในใจว่าคงไปถึงเชียงคานเช้าๆแล้วเลยไปใส่บาตรพระ....แต่ด้วยความที่มาถึงเช้าเกิน ก็เลยมาหารีวิวเชียงคานเก่าๆดู

อู้หู???? เชียงคานมีทะเลหมอกด้วย

ภูทอก...ทะเลหมอกเชียงคาน รออะไรละครับไปดูทะเลหมอก พร้อมแสงแรกของวันกันดีกว่า..

เช้านี้ที่ภูทอก ทะเลหมอกเชียงคาน

ผมมาถึงภูทอกประมาณตี 4 กว่าๆครับ เขายังไม่เปิดให้ขึ้นเลย

แนะนำจั๊กหน่อยแน่

การเดินทางขึ้นภูทอก ไม่เปิดให้นำรถส่วนตัวขึ้นนะครับ ต้องเอารถไปจอดฝากไว้ที่ทางขึ้น 20 บาท แล้วจะมีรถรับ-ส่งขึ้นถึงยอดภูทอกเลยครับ สนนราคาที่คนละ 25 บาท ถนนค่อนข้างแคบและชันมากครับ เรียกว่าต้องอาศัยความชำนาญในการขับขึ้นลงเลยก็ว่าได้

หลังจากเดินไปถามที่ขายตั๋ว บอกว่าน่าจะขึ้นเที่ยวแรกประมาณตี 5 กว่าๆ ก็เลยต้องมานั้งรอที่รถ

พอถึงตี 5 กว่าๆ ก็เก็บของเตรียมไปทะเลหมอกบนยอดภูทอก

โฉมหน้ารถที่จะพาเราขึ้นไปบนภูทอกครัช

หลังจากซื้อบัตรซื้อตั๋วเสร็จ ก็เตรียมตัวขึ้นรถเลยครับ...ชิดในหน่อยพี่ ชิดในหน่อย

พอรุ่งสางแสงแรกของวันเริ่มโผล่ขึ้นขอบฟ้า ทะเลหมอกกระจุกเล็กๆก็เริ่มทยอยออกมาให้เราชม

ถึงแม้หมอกจะไม่หนามาก แต่ก็สวยและประทัปใจสุดๆครับ

มันสวยอย่างนี้นี้เองงงงงงงงงงงง.....ฟินเฟ้ออออออออออ

วันพระที่เชียงคาน

หลังจากที่ลงมาจากภูทอก ผมก็แวะซื้อของที่ตลาดเพื่อที่จะไปทำบุญที่วัด เพราะวันที่ผมไปตรงกับวันพระพอดี

เลยลงมาซื้อของที่ตลาดเชียงคานเพื่อไปวัด

“เคยมีคนบอกว่า ถ้าจะสัมผัสวิถีชีวิตคนพื้นถิ่นจริงๆต้องไปหาดูที่ตลาดกับในวัด”

วัดที่เชียงคานมีหลายวัดเลยครับ ผมเลือกมาวัดศรีคุณเมือง อยู่ตรง3แยกเชียงคานพอดีเลยครับ

พระกำลังให้พรเลยครับ ขอตัวไปทำบุญก่อนน่ะครับ เอาบุญมาฝากด้วยน้า....รับน้า.....

หลังจากทำบุญเสร็จก็แวะออกมาเก็บรรยากาศในวัดมาฝากด้วยนะครับ

อาหารการกิน

หลังจากทำบุญเสร็จท้องก็เริ่มร้องสิแล้วสิครัช...

แหม๋...น้องพยาธินี่รู้งานจริงๆนะครัช ร้องกินข้าวแต่เช้าเลย จ๊อกๆ จ๊อกๆ

ปล่อยให้น้องร้องไม่ได้เลยนะครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เรื่องกินเรื่องใหญ่

จัดไข่กระทะไป 1จาน อิ่มพุงกางเลยทีเดียวเชียวละฮะ...

ไหนๆตอนนี้ก็พูดเรื่องของกินกันแล้ว ผมขอรวมของกินที่ผมจัดกันไประหว่าง ใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงคานเลยนะครัช

มื้อเย็นผมฝากท้องไว้ที่ร้านซุปจักรพรรดิ เชียงคาน ครัช

ร้านนี้คุณหรีดแนะนำเลยนะฮะ อร่อยเด็ดฮะ กับติ่มซำที่มีให้เลือกหลากหลายทั้งขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า เกี๊ยวกุ้ง สนนราคาที่เข่งละ 29 บาท เท่านั้นนะฮะ

ส่วนเมนูเด็ดต้องเป็นซุปเห็ดจักรพรรดิฮะ เจ้าของร้านเล่าสรรพคุณว่า เป็นซุปที่ต้มจากเห็ด19ชนิด ใช้เวลาเคี่ยวกว่า12ชั่วโมง เลยเอามาลองจัดดูสิ

คือดีงามงามอะแกร...มันหอมมาก ซดร้อนๆ มันชุ่มคอเจ๊ซะเหลือเกิน แต่ขอบอกว่าถึงอากาศจะร้อนแต่ซุปร้อนๆที่ซดเข้าไปกลับทำให้สดชื่นมากเลยนะฮะ สนนราคาที่ถ้วยละ80บาท อร่อยฮะจิ๊กคอนเฟิร์ม....

ส่วนมื้อเช้าอีกวันผมฝากท้องไว้กับร้านโจ๊กข้างวัดท่าคกครับ

เชียงคานถึงจะเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ แต่เรื่องอาหารการกินนี่อุดมสมบูรณ์เลยทีเดียวนะครัช 5555

ลืมบอกไปเลยวว่าทริปนี้ไม่ขอชี้แจงรายละเอียดค่าใช่จ่ายนะครับ เพราะส่วนใหญ่หมดไปกับการกิน และของฝากติดไม้ติดมือครัช

เบิ่งเชียงคาน

เชียงคาน อำเภอเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีประวัติศาสตร์มากว่าร้อยปี

เสน่ห์ที่ยังคงมีมนต์ขลังไปพร้อมกับการพัฒนาที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ

ผมว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำให้มาซึมซับบรรยากาศ และเก็บเกี่ยวเอาความสุขกลับไปนอนกอด

แต่ก็ไม่อยากให้คาดหวังกับเชียงคานมากนะครับ เพราะอาจจะไม่ตรงจริตก็ได้นะครัช 5555 แล้วแต่มุมมองและวิจารณญานส่วนบุคคลเลย

แต่สำหรับผมแล้ว เชียงคานเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาพักผ่อน มาเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ มาแบบไม่คาดหวังว่าจะต้องได้วิวร้อยล้านกลับมา ได้ความงามเหมือนในรีวิวนะฮ้าบบบบบ

แหม๋.....เหมือนจะดราม่า 55555

มาต่อดีกว่า...หลังจากกินข้าวเสร็จก็ถึงเวลามาดูบ้านดูเมืองเชียงคานกัน

ผมไม่ได้เช่าจักรยานนะครับ อยากเดินไปเรื่อยๆเก็บเอาบรรยากาศให้เต็มปอดเลย

พามาชมบรรยากาศริมน้ำโขงบ้างดีกว่า อากาศคือดีมากอะ แดดไม่ร้อนเลยครับ

มาๆๆๆ ตามผมมา...อย่าเพิ่งปวดขา

พระอาทิตย์ตกแล้ว ไปเที่ยวถนนคนเดินกันเถอะ

ที่หลับที่นอน

ก่อนจะพาไปเที่ยวถนนคนเดินเชียงคาน

ก็แวะมาเชคอินเข้าที่พักก่อนดีกว่าเนอะ เก็บของ อาบน้ำแต่งตัว ให้หอมฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวก่อน เด๋วไปถ่ายรูปแล้วไม่เริ้ดนะฮ้า

ผมพักที่หาดพรหมรีสอร์ทครับ ทางไปแก่งคุดคู้ สนนราคาที่ 2500 บาทต่อคืน นอนได้4คน

บรรยากาศดีครับ ติดริมน้ำโขงเลย ผมชอบนะ ผู้คนไม่พลุกพล่านดี

ที่พักหลักพัน บรรยากาศดีเกินคาดเลยนะครับ อิอิ

สีสันแห่งเชียงคาน

ไฮไลท์ของเชียงคานคงหนีไม่พ้นถนนคนเดิน ยามค่ำคืนเนอะครับ

เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวออกมาหาซื้อของฝากและหาของกิน

เอาบรรยากาศมาให้ชมกันดีฝ่า

มาๆๆๆๆ ตามผมมาเบยยยยยย

ตลอด2ข้างทางมีพ่อค้าแม่ค้าออกมาขายของฝาก ของที่ระลึก ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าขาวม้า และที่สำคัญคือของกินมีให้เลือกกินตลอดทางเลยครับ 5555 เดินไปกินไป อิ่มตลอดทางเลยนะครัชแหม๋....

ร้านกาแฟพี่สิงห์

ตอนนี้ผมขอนำเสนอร้านกาแฟเล็กๆร้านนึงที่ซ่อนตัวอยู่ในเชียงคานครับ

เชื่อไหมครับว่า ผมหลงรักบรรยากาศร้านนี้ตั้งแต่แรกเจอเลยทีเดียวนะครัชแหม๋

ร้านกาแฟโอเพ่นแอร์ ขนาดสองห้องเล็กๆ มีต้นสร้อยอินทนิลคลุมหลังคาเป็นกรีนลูฟ

คือชอบอะแกร...ตกแต่งง่ายๆ มีโต๊ะไม้ 6-7โต๊ะเอง

เอาบรรยากาศมาให้ชมดีกว่าครัช

เชื่อไหมครับร้านนี้ผมไปถึง 4 รอบใน 2วัน

คือตอนแรกนะก็คือชอบบรรยากาศมันนั้งชิวๆ สะบายดียังไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่เจ้าของร้านเลยนะ

ตอนเย็นก็แวะไปแต่ก็ไม่ได้เจอกับพี่เขา แต่ร้านก็เปิดเพลง เปิดไฟไว้ จนรอไม่ไหวก็เลยกลับ

จนถึงเช้าวันอาทิตย์หลังจากกินข้าวเสร็จก็เลยแวะมากินอีกรอบ เลยมีโอกาสได้คุยกับพี่เจ้าของร้าน

ก็ได้ชื่อเสียงเรียกนามแกมา....

แกชื่อพี่สิงห์ครับ เจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้

แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากคุยกับพี่สิงห์ก็เพราะหนังสือในชั้นนี้แหละครับ...คือแบบมีหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางเยอะมากกกกก

เลยตัดสินใจขอเข้าไปคุยกับพี่แก...

ขอสรุปบทสนทนาคร่าวๆให้ฟังนะครับ

พี่สิงห์เล่าให้ฟังว่า พื้นเพเดิมแกไม่ได้เป็นคนเชียงคาน แต่แกเป็นนักเดินทางที่เดินทางมาตลอดชีวิต แต่สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่เชียงคาน ผมก็ถามแกว่าทำไมแกถึงรักเชียงคาน คำตอบที่ได้จากแกคือ"เชียงคานเป้นเมืองที่พอดีกับชีวิต" ได้ฟังคำตอบถึงขั้นขนลุกเลยครัช

คิดดูสิครับคุณผู้ช้มมม...ว่าเชียงคานมีมนต์เสน่ห์แค่ไหน เป็นถึงจุดหมายของนักเดินทางเลยนะครับ

เราใช่เวลาสนทนากันเกือบ2ชั่วโมง พูดถึงเรื่องเดินทางไปในที่ต่างๆของพี่สิงห์ มันช่างเป็นชีวิตที่มีความสุขมากๆเลยนะครับ พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลยนะครับ อิอิ

เป็นยังไงบ้างครับกับเมืองเล็กๆริมน้ำโขง

ที่ได้สมยานามว่า...หลวงพระบางเมืองไทย

เชียงคาน...กับเวลาที่หยุดเดิน

อีกหนึ่งใน 7 ที่เที่ยวหน้าฝน ที่ผมอยากแนะนำให้ออกมาสัมผัสความงามแล้วคุณจะหลงรักเลย...เชียงคาน

หากชีวิต คือ การเดินทางจริงๆ

เมื่อมี "เริ่มต้น" ก็ต้องมี "จุดหมายปลายทาง"

และมีทางออกให้กับทุกเส้นทางเสมอ

...ให้เวลา กับ หนทาง แล้วมันจะพาไปเจอเรื่องใหม่ๆ

เพราะทุกขณะที่ผ่านไป เรากำลังได้บทเรียนเพิ่มขึ้นมา

และจงทำความรู้จัก...กับความรู้สึกของตัวเองให้มากขึ้น

ให้ตัวเองได้ลองทำ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี...ขอบคุณครับ 


อัลบั้มภาพ 69 ภาพ

อัลบั้มภาพ 69 ภาพ ของ เมื่อผู้ชายนวลๆ ชวนไป "ฮักเลย" @ เชียงคาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook