6 ร้านใหม่..รอบเมือง ที่ควรชวนเพื่อนไปลอง

6 ร้านใหม่..รอบเมือง ที่ควรชวนเพื่อนไปลอง

6 ร้านใหม่..รอบเมือง ที่ควรชวนเพื่อนไปลอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

iPick แอปพลิเคชั่นแนะนำร้านอาหาร ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับ 6 ร้านอาหารเปิดใหม่ที่มีทั้งขนมหวานสุดน่ารัก ร้านอาหารโรงแรมสุดหรู และบาร์ลึกลับสำหรับนักดื่มตัวยง และอย่าลืมกดไลค์เพื่อติดตามข่าวอร่อย ๆ กันที่นี่ https://www.facebook.com/ipickth

1. Rocket X - 72 Courtyard

ไม่ว่าจะมีคาเฟ่เปิดมากมายแค่ไหนในกรุงเทพฯ ก็คงจะไม่มีใครลืมร้าน Rocket คาเฟ่สไตล์นอร์ดิคสุดฮิปสีฟ้าอ่อนในซอยสาทร 12 แห่งนี้ไปได้ ด้วยกาแฟ Cold Brew และบรั๊นช์จานสวย โดยล่าสุดทีมงานได้เปิดตัวร้านใหม่ ณ 72 Courtyard ซึ่งน่าจะเป็นพื้นที่แฮงก์เอาท์แห่งใหม่ย่านทองหล่อในเร็ว ๆ นี้

การตกแต่งร้านยังคงมู้ดเดิมกับบรรยากาศที่โปร่งสบาย โดยการใช้สีสว่างและตกแต่งด้วยโต๊ะหินอ่อนสีขาว ไม้สีอ่อน แซมด้วยสีฟ้าอ่อนประจำร้าน พร้อมเคาน์เตอร์ Take Away ขนาดใหญ่ นับว่าเป็นการนำเสนอบรรยากาศใหม่ ๆ ในมู้ดเดิม ๆ หลังจากที่คาเฟ่ทั้งหลายต่างมุ่งหน้าไปที่แนวอินดัสเทรียลและลอฟต์ทั้งหมด

โดยอาหารของที่นี่ยังคงดูแลโดย Executive Chef Chatin Dienel คนเดิมที่ยังคงนำเสนอของกินดื่มที่มีสไตล์และคุณภาพ ซึ่งที่ Rocket X นี้จะโฟกัสที่เมนูแซนด์วิช โดยเฉพาะไฮไลท์อย่าง เบเกิลสไตล์นิวยอร์ก กับราคาที่เป็นมิตรมากขึ้น ซึ่งเชฟพยายามจะทำทุกอย่างขึ้นมาเองในร้านเท่าที่จะทำได้และเน้นความสดใหม่ “ถึงแม้ว่าคุณจะซื้อของจากที่นี่แล้วหยิบมากินหลังประชุมงานหลายชั่วโมงถัดมา ทุกอย่างนั้นควรจะยังคงความสดใหม่และมีรสชาติดีเสมอ” เชฟกล่าว

สำหรับอาหารเราขอแนะนำ NYC Bagel with Cream Cheese (95 บาท), Rye Sourdough Cheese Toasties เสิร์ฟกับโชริโซ แยมมะเขือเทศ และชีส Gouda (185 บาท) ส่วนใครรักสุขภาพสามารถถามหา Super Spring Salad (160 บาท) สลัดคินัวกับหน่อไม้ฝรั่ง บร็อคโคลี ต้นอ่อนทานตะวัน เมล็ดเชีย ไข่ลวก และน้ำสลัดฮันนีมัสตาร์ด และ Black Rice Porridge (60 บาท) มาเติมพลังยามเช้าได้ไม่น้อย

สำหรับแฟน ๆ ที่ชอบเครื่องดื่มของ Rocket ก็สามารถมาลองเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่ครีเอทโดยคุณ Atchara Palleros บาริสต้ามากประสบการณ์กันได้ แถมยังมีข่าวดีแว่ว ๆ มาอีกว่า ร้าน Rocket จะมีการเปิดตัวสาขาใหม่อย่าง Rocket Fuel ในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

รายละเอียดร้าน: http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30009221

2. Elefin

คอกาแฟไทยตัวจริงน่าจะรู้จักร้าน Elefin นี้เป็นอย่างดี เพราะร้านเพิ่งฉลองครบรอบ 10 ปีไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์พร้อมกับการเปิดตัวสาขาล่าสุด ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 4 ใจกลางย่านยอดนิยมของชาวต่างชาติอย่างท่าเตียน ให้เป็นเหมือนอีกหนึ่งพื้นที่ที่สามารถมาพักผ่อนอ่านหนังสือในวันสบาย ๆ หรือมาทานอาหารไทยแท้ช่วงมื้อเที่ยงพร้อมกาแฟดี ๆ ที่คาเฟ่เล็ก ๆ แห่งนี้

ที่นี่ไม่เพียงแต่เสิร์ฟกาแฟคุณภาพรสนุ่มที่ผ่านการควบคุมกระบวนการทั้งหมดจากความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านกาแฟของคุณ Edwin Leebrick เจ้าของโรงคั่ว Lighthouse Roastery ในรัฐซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกาซึ่งจับมือร่วมกับคุณ Suzanne Vetillart Chayavichitsilp ผู้อยู่เบื้องหลังโรงแรมหรรษามากว่า 15 ปี โดยนำแรงบันดาลใจมาจากความเป็นไทย เมล็ดกาแฟของที่นี่ทั้งหมดจึงมาจากแหล่งปลูกบนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย

ซึ่งสาขาใหม่นี้มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ที่ต่างจากเดิม ลุคที่เข้มขรึมของโครงร้านไม้ดั้งเดิมผสมผสานกับการใช้โทนสีเขียวเข้มและพื้นกระเบื้องที่ล้วนเล่าเรื่องราวเดียวกันกับสถาปัตยกรรมรอบด้านได้เป็นอย่างดี ผนังกระจกที่ลดความแข็งกระด้างของร้านลง ทำให้ Elefin เหมาะกับการนั่งเล่นมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างเพลิดเพลิน นอกจากบรรยากาศของร้านแล้ว เมล็ดกาแฟเบลนด์ไทยของที่นี่จะทำให้คุณประทับใจผ่านแก้วอย่าง Americano (70 บาท) Cappuccino (B90) Caffe Mocha (80 บาท) และ Cold Brew (100 บาท) ที่ผ่านกรรมวิธีการสกัดเย็นประมาณ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

แถม Elefin ยังมีเมนูอาหารไทยที่เราจะต้องเซอร์ไพรส์กับรสมือ ด้วยความจัดจ้านและครบรสตามหลักอาหารไทย ซึ่งจานแนะนำเราได้มีโอกาสลองเป็น ปอเปี๊ยะสด (105 บาท) จานนี้เราประทับตรงความเหนียวนุ่มของแป้งและความสดของวัตถุดิบ ส่วนชุดส้มตำ Elefin (140 บาท) ที่สร้างความประทับใจ ด้วยส้มตำไทยที่เสิร์ฟมาพร้อมกับไก่ทอดและข้าวเหนียวดำ แถมมีอีกจานที่น่าลองอย่าง Vietnamese Bowl (160 บาท) มาพร้อมกับของทานเล่นอย่างไก่ทอด ปอเปี๊ยะทอด เส้นหมี่ และกุ้ง สำหรับจานเดี่ยวขอแนะนำเป็น ผัดไทย (125 บาท) เส้นจันทน์เหนียวนุ่มหาทานยาก หรือลองเส้นใหญ่ผัดขี้เมา (125 บาท) และราดหน้า (125 บาท)

รายละเอียดร้าน: http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30004160

3. Shugaa

ร้านของหวานในย่านเอกมัยอย่าง Shugaa ติดอันดับร้านฮอตฮิตตั้งแต่เปิดเพียงไม่กี่วัน ด้วยขนมหน้าตาสวยงามและบรรยากาศร้านที่สามารถสแน็ปรูปสวย ๆ ได้ทุกมุม ขนมทุกชิ้นของที่นี่ถูกครีเอทโดยคุณโบ๊ท วชิรวิชญ์ ก้องภพจิรพัฒน์ เชฟหนุ่มไฟแรงที่สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่ การได้คลุกคลีกับการทำขนมไทยกับคุณยายตั้งแต่เด็ก ๆ และหลังจากผ่านการทำงานในวงการมาสักพัก เขาก็พร้อมจะนำเสนอขนมใหม่ ๆ ที่ล้วนเกิดจากความรักและจินตนาการขึ้น

ร้านสุดเก๋นี้เป็นผลงานของทีมออกแบบภายในชื่อคุ้นหูอย่าง Party/Space/Design ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความครีเอทีฟและการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เข้าถึงผู้คนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเห็นได้ชัดจากตัวร้านโปร่งโทนสีพาสเทลให้ความรู้สึกอบอุ่นผสมผสานกับการตกแต่งร้านที่เล่นกับการตกผลึกด้วยเหลี่ยมมุมและลักษณะที่โดดเด่นของน้ำตาล อาทิ บันไดเวียนล้อมรอบด้วยกล่องลูกบาศก์ใส เคาน์เตอร์ขนมสีขาวพร้อมรูปทรงเสมือนน้ำตาลหลายรูปแบบ หรือรูปปั้นหมีและนกฮัมมิ่งเบิร์ด

ขนมทุกชิ้นและ Plated Dessert ทุกจานนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากอาหารต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งจานที่ทางร้านแนะนำคงจะเป็น Ruk’s (135 บาท) ที่เรียกได้ว่าเป็นการตีความข้าวเหนียวมะม่วงออกมาในแนวโมเดิร์น ประกอบด้วยมูสมะม่วง โฟมและครีมกะทิ ครัมเบิ้ลมะพร้าวเผา ขนมงาดำ และซอส Coulis มะม่วงกับมะนาว ส่วนอีกจานคือ Shugaa ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นจากเค้กลาวาเกาลัด ไอศกรีมมัทฉะ ถั่วแดงมองบลังค์ ข้าวกรอบ ซอสมิตาราชิ และโมชิคลุกผงถั่วเหลือง

นอกจากนี้ยังมีขนมชิ้นที่เวียนมาให้บริการเรื่อย ๆ อาทิ Kyotonite (190 บาท), Forest Gump (180 บาท), J’Stellar (185บาท) และ Cromp B’ (160 บาท) แต่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์คือ Shugaa Dome (1,800 บาท) ที่ทำมาจากน้ำตาล Fondant หน้าตาน่ารัก โดยจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลหรือสามารถสั่งทำพิเศษก็ได้

แถมที่นี่ยังมีเมนูบรั๊นช์เอาใจคนกรุงอย่าง Magret de Canard (365 บาท) เนื้อเป็ดย่างพร้อมซอสเบอร์รี่และมิโซะ หรือจานคลาสสิคอย่าง Smoked Salmon Benedict (255 บาท) ก่อนที่จะปิดท้ายมื้อน่ารัก ๆ ด้วย Shugria (145/245 บาท) และชาร้อน (160 บาท) ก็สามารถเข้าคู่กับทั้งอาหารและขนมได้อย่างลงตัว ส่วนแฟนตัวยงที่อยากเรียนรู้ ฝึกปรือฝีมือกับทีมงาน Shugaa ทางร้านจะมีเวิร์คช็อปปั้นน้ำตาล Fondant บนชั้นสองของร้านเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

รายละเอียดร้าน: http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30009224

4. Wing N’ Thing

นอกจากย่านพระนครจะมีทัศนียภาพและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งกับคนไทยและชาวต่างชาติแล้ว ในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ยังมีสิ่งที่น่าดึงดูดให้ต้องแวะเวียนกลับมาเรื่อย ๆ ด้วยบาร์และร้านอาหารเล็ก ๆ ตามห้องแถวที่ทยอยกันมาเปิดตัว โดยล่าสุดบนถนนพระอาทิตย์ เพิ่งมีบาร์น้องใหม่อย่างร้าน Wing N’ Thing ลุคดิบเท่ของทีมงานร้าน The Shrimp Lover มาเปิดเทียบเคียงร้านเก๋า ๆ ในละแวกเดียวกันอย่างร้านเจ๊แดงก๋วยจั๊บญวนและก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย ซึ่งน่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนชอบบรรยากาศชิลล์ ๆ ก่อนเดินชมหรือไปสนุกสนานกันต่อที่ร้านอื่นในย่านนี้

ภายในร้านเล็กสองชั้นนี้ เน้นการตกแต่งแบบแมน ๆ ให้เข้ากับสไตล์อาหารและบาร์ ซึ่งมีผนังที่เน้นความดิบด้วยสีของผนังเก่า ภาพเพ้นต์ลวดลายจาง ๆ พื้นปูนเปลือย โครงเหล็กของชั้นวางของ โต๊ะเก้าอี้เหล็กสีดำ และโคมไฟดวงเล็กเปลือย ๆ ที่ให้ลุคง่าย ๆ แต่เพิ่มความสะอาดตาให้กับร้านด้วยบาร์กระเบื้องสีขาวที่ตั้งอยู่กลางร้าน

หากจะเรียก Wing N’ Thing ว่าเป็นร้านขายปีกไก่ทอดก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะตัวชูโรงเป็นปีกไก่กรอบ (6ชิ้น/160 บาท) ที่ผ่านการหมักถึงสองครั้งและทอดอีกสองครั้งจนได้ความกรอบพิเศษ และ Chicken New Orleans (6 ชิ้น/160 บาท) เหมาะจะเป็นกับแกล้มอย่างปฏิเสธไม่ได้ และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการมีน้ำซอสสุดครีเอทีฟที่ทางร้านมีให้เลือกมากถึง 8 ชนิด โดยตัวที่น่าสนใจเห็นจะเป็น Top Secret Cheese Bar Dip, Basil Caramel Dip และ Jack Daniel BBQ (ถ้วยละ 25 บาท)

ส่วนจานที่หนักขึ้นมาหน่อย ทางร้านมี Roast Beef Grilled Cheese (250 บาท) Bacon Grilled Cheese (190 บาท) ลักษณะคล้ายแซนด์วิช ซึ่งใส่ทั้งชีส เห็ดแชมปิยองผัดกับเบคอนหอมกลิ่นรมควันที่ไม่มันเยิ้มอย่างที่คิด หรือจะลองเป็นพิซซ่าต้มยำกุ้ง (300 บาท) ก็เหมาะกับการสั่งมาแบ่งทานกันได้หลายคนเลยทีเดียว แล้วอย่าลืมสั่งเครื่องเคียงอย่าง เฟรนช์ฟรายเกรวี่ชีส (80 บาท) ชีสทอด (60 บาท) หรือมันบด (40 บาท) มาเสริมทัพด้วย

สำหรับเมนูเครื่องดื่ม ที่นี่มีทั้งดริ๊งก์ตัวคลาสสิกอย่าง Negroni (260 บาท) Magarita (200 บาท) Whiskey Sour (260 บาท) และ Sangria (200 บาท) หรือลองเป็นตัวซิกเนเจอร์ Bacon Blah Blah (230 บาท) ที่มีเบอร์เบิน เบคอน ไข่ขาว น้ำมะนาว และบิทเทอร์ รสชาติกลมกล่อมเลยทีเดียวสำหรับแก้วนี้ แถมด้วยดริ๊งค์อีกสองตัวที่สาว ๆ น่าจะชอบกัน อย่าง Best Aperol (200 บาท) ที่มีรัม เหล้ารสกล้วย เหล้ารสพีช และ Aperol และอีกตัว Lavender Passion (230 บาท) ที่มากับรัม มาลิบู น้ำเชื่อมกลิ่นลาเวนเดอร์ น้ำเสาวรส น้ำมะนาว และบิทเทอร์

รายละเอียดร้าน: http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30009245

ติดตามร้านอื่น ๆ กันได้ที่ http://th.ipick.com/article/169/ 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ 6 ร้านใหม่..รอบเมือง ที่ควรชวนเพื่อนไปลอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook