นำเทรนด์ก่อนใครกับ 8 ร้านเปิดใหม่ที่น่าจับตามอง

นำเทรนด์ก่อนใครกับ 8 ร้านเปิดใหม่ที่น่าจับตามอง

นำเทรนด์ก่อนใครกับ 8 ร้านเปิดใหม่ที่น่าจับตามอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ทาง iPick แอพพลิเคชั่นที่คัดสรรร้านอาหารดี ๆ ได้นำเสนอ 8 คอนเซ็ปต์จาก 8 ร้านเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ ให้ได้ลองกัน

1.Seed

หัวหน้าเชฟชาวสิงค์โปร์ Haikal Johari จากร้าน Water Library สาขาทองหล่อ ได้นำเสนอเมล็ดพันธุ์คอนเซปต์อันใหม่ที่ซอยสุขุมวิท 39 โดยเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ทิ้งอาหารหรูหราไว้เบื้องหลัง ส่วนที่ร้าน Seed นั้น เป็นการเปิดรับอาหารทานง่าย ๆ สไตล์รัสติกด้วยราคาเอื้อมถึงและยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของ Water Library ในทุกรายละเอียด

 

ร้าน Seed นั้นมาเติมเต็มพื้นที่ที่เคยเป็นร้าน Library โดยการตกแต่งภายในของร้านเลียนแบบโรงนา มีการใช้ไม้สีอ่อนและสีโทนอบอุ่น แถมยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบสไตล์ชนบท เช่น การใช้เชือกห้อยระโยงระยาง ต้นไม้ขนาดเล็ก กระบองเพชร อุปกรณ์ทำไร่ ขวดโหลที่เต็มไปด้วยเมล็ดพันธุ์ ส่วนครัวจะตั้งอยู่กลางร้าน จึงทำให้เห็นทีมงานและเชฟที่ทำงานอย่างแข็งขัน ใกล้ ๆ กันจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์พร้อมชงเครื่องดื่มซิกเนเจอร์จาก Water Library หลากหลายตัวให้คุณ

 

อาหารของที่นี่ส่วนมากจะได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารฝรั่งเศส และแต่งแต้มความเป็นเอเชียเข้าไป ทุกจานนั้นถูกทำออกมาให้เรียบง่าย สวยงาม แต่มีรสชาติซับซ้อน นอกจากนี้วัตถุดิบเกือบทั้งหมดยังมาจากผู้ผลิตท้องถิ่น ซึ่งเชฟ Haikal เป็นผู้เลือกสรรและเฟ้นหาทุกอย่างเอง “อาหารของเชฟ Haikal นั้นต้องทำให้รู้สึกได้ถึงสัมผัสทั้งห้าได้อย่างชัดเจน รูป เสียง รส สัมผัสและที่เน้นที่สุดคือ กลิ่น” เชฟจาว ภคปัทม์ ศักดิ์ยโศ กล่าว

 

ทุก ๆ จานจะมาเสิร์ฟพร้อมกับคนในทีมครัว ที่พร้อมจะมาแนะนำและอธิบายถึงแต่ละจาน จานแนะนำที่นี่มี Baby Cos Lettuce (270 บาท) ที่มีกุ้ง ชีสเชดด้า ชีสพาร์เมซาน และ Creamy Vinegrette & Dry Aged Beef Carpaccio (390 บาท) ที่รสชาติเข้มข้นเข้ากันพอดีกับ มายองเนสทูน่า เกล็ดน้ำแข็งฟัวกราส์ และน้ำส้มสายชูข้าว

โดยจานที่ได้รับความนิยมและถ่ายรูปออกมาแล้วฮือฮากันมากที่สุดเห็นจะเป็น Whole Sea Crab Pasta (1,390 บาท) ที่ทำมาจากปูเป็น ๆ สดใหม่ทุกวันและสามารถแบ่งกันทานได้ถึง 2-4 คน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องจองล่วงหน้า สำหรับใครที่ยังคิดถึงสาขาทองหล่อ เร็ว ๆ นี้ทางร้านก็จะมี Surprising Menu 4 คอร์ส (1,900 บาท) จากเชฟ Haikal

 

นอกจากนี้ที่ร้านยังเน้นไวน์ราคาไม่แพงจนเกินไปแต่มีคุณภาพ โดยไวน์ต่อแก้วราคาเริ่มต้นเพียง 189 บาท และสำหรับคนที่อยากดื่มค็อกเทลก็สามารถลอง Sexy Lychee (320 บาท) และ Seed Caramel Negori (320 บาท) กันได้

 

ที่ตั้ง: ซอยสุขุมวิท 39

เบอร์โทร: 099-283-6363

วันเวลาเปิดปิด: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ 17:30-01:00 น.

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: 

http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008071

2. September

September (กันยายน) เดือนแรกของลมหนาวที่มาพร้อมกับฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นที่มาของร้านพร้อมกลิ่นอายความโรแมนติกของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยสไตล์การตกแต่งชวนให้นึกถึงเมืองในแถบยุโรป ผสมผสานกับบรรยากาศสบาย ๆ และอบอุ่น เหมือนทานข้าวอยู่ในบ้าน

 

“เราอยากทำอาหารที่แตกต่างจากที่อื่น โดยการนำเสนอรสชาติอาหารที่ชัดเจนในแบบที่เราคิดว่าควรจะเป็น จากวัตถุดิบท้องถิ่นที่เลือกใช้ กลายเป็นความลงตัวของ Everyday Food ที่ใช้ความตั้งใจและใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งรสนิยมการกินของคนในยุคสมัยนี้เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญ แต่เราก็ไม่ควรเสียรสชาติที่มีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงตัวตนของเรา” เชฟหน่อย ช่อทิพย์ อวยพรชัยสกุล (หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลัง Bangkok Bold Cooking Studio, Tales of Gold Mine และอีกมากมาย) กล่าว

เมนูที่นี่อัดแน่นไปด้วยความหลากหลาย และคาแรคเตอร์ของแต่ละจานที่มีวัตถุดิบท้องถิ่นเป็นจุดเด่น ผ่านกระบวนการคิด รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน และความเอาใจใส่ของเชฟหน่อย รวมถึงแรงบันดาลใจจากการเดินทางของเธอ ด้วยความชื่นชอบในผักและสมุนไพรพื้นบ้าน กลายมาเป็นอาหารจานคลาสสิค ทั้งไทยและเทศ ในรูปแบบการนำเสนอที่เน้นรสชาติใหม่ ๆ เช่น การเพิ่มรสชาติเผ็ดสไตล์วาซาบิโดยการใช้ผักกาดหินแทนผักร็อคเก็ตในสลัด หรือการเพิ่มความจัดจ้านสไตล์ไทยให้กับเมนูแนะนำอย่าง หอยแมลงภู่กับครีมเบคอน (450 บาท) ที่ใช้พริกดองเป็นเบสแทนไวน์ขาว เมนูแนะนำอื่น ๆ ยังมีอีกมากมาย เช่น สเต็กหมูกับข้าวโพดซอสเนย (490 บาท) หรือถ้าใครชอบทานผักสมุนไพรนานาชาติ ไม่ควรพลาดเมนูหายากอย่าง ชุดน้ำพริกเห็ดย่างกับผักสด (220 บาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในจานโปรดของเชฟหน่อยอีกด้วย

“เราหลีกเลี่ยงการใช้วัตถุดิบสำเร็จรูป ส่วนประกอบขนมแต่ละอย่าง ถ้าทำเองได้ เราจะทำเองทั้งหมด โดยไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเราเชื่อในวัตถุดิบที่ดีในการประกอบอาหารทุกชนิด” เชฟต้น วัชรรักช์ สินทัตตโสภณ เชฟขนมหวาน กล่าว

เมนูขนมหวานแนะนำที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ ลูกแพร์น้ำแข็งใส (200 บาท) ที่สามารถเลือกส่วนประกอบน้ำแข็งใสให้เป็นไวน์แดงหรือไวน์ขาวได้ตามความชอบ หรือ มะตูมสติ๊กกี้บันส์ (170 บาท) ขนมปังบริโอชในรูปแบบคล้ายกับซินนามอนโรล ที่ใช้ถั่วพีแคนกับน้ำตาลทรายแดงแทนอบเชย ส่วนเมนูโปรดอื่น ๆ ที่ใครเห็นเป็นต้องสั่ง คือ บานอฟฟี่ (160 บาท) และ สตรอเบอร์รี่ช็อตเค้ก (200 บาท) ยังมีลูกเล่นในส่วนประกอบ ทำให้ขนมธรรมดา ๆ พิเศษกว่าที่เคย

 

ที่ตั้ง: Chic Republic ชั้น 1, ถนนบางนา-ตราด กม.4

เบอร์โทร: 098-283-6414

วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 11:00-22:00 น.

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: 

http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008119

3. Emmie’s

Emmie’s คือร้านคาเฟ่สีขาวล้วน ตัดกับโครงสร้างบ้านไม้ เป็นอีกร้านที่โดดเด่นในด้านการตกแต่ง สวยแบบเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ พร้อมกระจกที่เรียงรายเต็มฝาผนัง นำพาแสงธรรมชาติให้สาดส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ร่มรื่นจากความเขียวขจีของพืชพันธุ์นานาชนิดที่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ โดยมีต้นอินทผาลัมที่ปลูกอยู่กลางร้านและโต๊ะขนาดยาวตรงทางเข้าร้านเป็นจุดเด่น ซึ่งถือเป็นมุมโปรดในร้านของใครหลายคนที่ชอบถ่ายรูปฮิป ๆ และนั่งหัวเราะไปกับเพื่อนในวันสบาย ๆ หรือถ้าอยากทอดอารมณ์ไปกับงานศิลป์ในมุมส่วนตัว หรือทำงานในตู้คอนเทนเนอร์ติดแอร์ บ้านหลังนี้เปิดประตูต้อนรับเสมอ

“ผมอยากทำร้านที่คนสามารถนั่งได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อนออกไปหลังทานอาหารเสร็จ ผมจึงพยายามจัดที่นั่งให้มีความหลากหลาย ทุกคนที่มาจะได้ผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ในทุกอิริยาบถ” คุณเอ ธนนิติ ณ หนองคาย เจ้าของร้าน กล่าว “ที่นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียและความทรงจำดี ๆ ก็ได้”

อาหารแนะนำมีหลายอย่าง เช่น Rocket Salad with Smoked Salmon (220 บาท) หรือถ้าหิวหน่อย ลอง Scrambled & Smoked Salmon Burger  ของหวานอย่าง French Toast กับผลไม้สดตามฤดูกาล ทานกับไอศกรีมเสาวรสก็ชื่นใจไปอีกแบบ (160 บาท) ส่วนเครื่องดื่ม แนะนำ Mango, Cashew & Chia Smoothie (180 บาท) หรือถ้าชอบเนยถั่ว คงฟินกับ Peanut Butter & Walnut Shakes (180 บาท)

ที่ตั้ง: ซอยพระรามเก้า 49

เบอร์โทร: 097-237-9777

วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 09:00-20:00 น.

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: 

http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008915

4. Luka

ข่าวดีสำหรับชาวสีลม-สาทรที่หลงรักบรั๊นช์ กับ Luka ร้านเปิดใหม่ที่มาพร้อมกับบรั๊นช์ กาแฟดี ๆ และยังตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์อย่าง Casa Pagoda ให้ใครที่แวะเวียนมา ได้เดินช็อปเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านเก๋ ๆ กันได้ ซึ่งสำหรับการออกแบบและตกแต่งร้านนี้เป็นผลงานของ Pordee Design ที่แบ่งตึกสามชั้นแห่งนี้ได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ตกแต่งออกมาในสไตล์รัสติก ด้วยการเน้นเฟอร์นิเจอร์เนื้อหยาบ ๆ เข้ากับผนังปูนที่กะเทาะบางส่วนออกให้เห็นโครงอิฐด้านใน เพิ่มลุคแมน ๆ อยู่ไม่น้อย โดยชั้น 1 เป็นพื้นที่ของการนั่งกินดื่ม มีเคาน์เตอร์กาแฟเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ใต้บันได เพิ่มความอบอุ่นได้อย่างดีด้วยการใช้ดวงไฟสีส้มดวงเล็ก ๆ ตกแต่งตามมุมต่าง ๆ สำหรับใครที่ตั้งใจมาเลือกเฟอร์นิเจอร์ สามารถตรงขึ้นไปที่ชั้น 3 โซนโชว์รูมของ Casa Pagoda ที่ทางร้านยังมีแพลนจะเพิ่มสตูดิโอและ Print Shop เร็ว ๆ นี้

ใครที่แวะมากันตั้งแต่ร้านเปิด แนะนำหาอะไรเบา ๆ อย่าง Pecan Pie (130 บาท) Almond Tart (125 บาท) มาทานรองท้องกันก่อน เพราะครัวจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 10:00 น.เป็นต้นไป ทางร้านใส่ใจในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ จึงพยายามเลือกใช้วัตถุดิบจาก Adams Organic, Sloane’s, Maison Jean Philippe และโครงการหลวง แนะนำเริ่มต้นมื้อด้วย Granola+Yogurt (90 บาท) ที่ท็อปด้วยเบอร์รี่และเลมอน หรือ Creamy Triple Mushroom Soup (170 บาท) ซุปครีมเห็ดสามชนิดที่มีส่วนผสมของ สมุนไพรและ น้ำมันมะกอก ใครมองหาจานหนักหน่อย แนะนำเป็น Sloppy Meatball Sandwich (290 บาท) มีทบอลในมารินาราซอส เสิร์ฟบนขนมปังบริโอช และ Breakfast Burrito (170 บาท) แต่อย่าลืมเผื่อท้องไว้สำหรับ Homemade Ice Cream (95 บาท) อีกหนึ่งจานโปรดของใครหลายคน ซึ่งมีให้เลือก 4 รสชาติ คือ สตรอว์เบอร์รี่ ลูกฟิก วานิลลาและ Salted Caramel

แนะนำกาแฟที่ทางร้านได้คุณ Steven Lim จากร้านกาแฟ Monmouth ที่นครนิวยอร์กมาเป็นบาริสต้าประจำ ซึ่งคัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีจากร้าน Ceresia Coffee Roasters มาให้เลือกดื่มกัน แก้วที่น่าสนใจ แนะนำเป็น Salted Caramel Cá Phê (140 บาท) ที่เสิร์ฟในอุปกรณ์การชงกาแฟแบบเวียดนาม คล้ายกาแฟดริปที่ผสมเข้ากับฟองนมและ Salted Caramel หรือจะลองเป็น Piccolo (80 บาท) Mocha (110 บาท) Long Black (90 บาท) อีกหนึ่งไฮไลท์ของเครื่อมดื่มที่นี่ เป็นชาแบรนด์ Tea Atelier ของคุณส้ม ฐิติกาญจน์ จงวัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมของร้าน Luka แน่นอนว่าที่นี่จึงมีชาให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งแบบ Single Origin และแบบเบลนด์ เสิร์ฟแบบร้อน โดยราคาเริ่มต้นที่กาละ 120 บาท หรือลองเป็น Chilled Sun Brewed Tea (ขวดละ 90 บาท) มีให้เลือกทั้งหมด 6 รสชาติ อาทิ Oolong Lychee & Lime, Chai Spice Tea, Ceylon Lavender Lime and Rose Water

 

ที่ตั้ง: 64/3 ถนนปั้น

เบอร์โทร: 02-637-8558

วันเวลาเปิดปิด: เปิดทุกวัน 08:30-19:00 น.

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: 

http://www.ipick.com/bangkok/th/restaurant/30008911

ติดตามร้านอื่น ๆ ได้ที่ iPick 

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ นำเทรนด์ก่อนใครกับ 8 ร้านเปิดใหม่ที่น่าจับตามอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook