มัณฑะเลย์ - พุกาม อัญมณีเม็ดงาม แห่งลุ่มน้ำอิระวดี ตอนที่ 5

มัณฑะเลย์ - พุกาม อัญมณีเม็ดงาม แห่งลุ่มน้ำอิระวดี ตอนที่ 5

มัณฑะเลย์ - พุกาม อัญมณีเม็ดงาม แห่งลุ่มน้ำอิระวดี ตอนที่ 5
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาถึงมัณฑะเลย์กันแล้วค่ะทุกคน ไม่พูดพร่ำทำเพลง ติดตามตามคุณ spras77 มุ่งหน้าไปลุยมัณฑะเลย์กันต่อเลยค่ะ

เป้าหมายเราคือร้านไม้แกะสลักครับ งาน hand made ในราคาไม่แพง

มีงานหุ่นกระบอกให้เลือกจำนวนมากครับ

หุ่นกระบอกตัวโต เท่ากับคนจริงๆ

ขอบพระคุณนายแบบ พี่กอบชัย ครับ 

เดินทางต่อไปอีกนิดครับ เราจะแวะร้านทำทองคำแผ่น (gold leaf) กัน เพราะพรุ่งนี้เรามีแผนจะร่วมพิธีล้างหน้าพระมหามัยมุณีกันตั้งแต่เช้ามืด

ร้านนี้เลยครับ King Galon Gold Leaf workshop เป็นร้านที่สมเด็จพระเทพ ท่านเคยเสด็จมาเมื่อหลายปีก่อน

สาธิตทำทองคำแผ่น(ทองคำเปลว)

show room ขายของที่ระลึก มีภาพสมเด็จพระเทพเมื่อครั้งท่านเสด็จมาที่ร้านแห่งนี้

จากลาด้วยรอยยิ้มของเกรียนน้อยๆเจ้าถิ่น ในซอยข้างร้านครับ

เดินทางต่อไปยังวัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda) จริงเราใช้เวลาไปเพื่อรอให้แดดร่ม ลมตกสักเล็กน้อยจึจะไปวัดกุโสดอร์กันครับ

“วัดกุโสดอร์ ” เป็นวัดที่สร้างขึ้นพร้อมๆกับการสร้างเมืองในปี พ.ศ. 2400 โดยเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 ซึ่งพระเจ้ามินดงทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และได้นำมาประดิษฐานในมณฑปรอบๆ อยู่รอบ “พระเจดีย์มหาโลกมารชิน”  ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม

สร้างโดยพระเจ้ามินดง

ทางเข้าสงบร่มรื่น

พระเจดีย์มหาโลกมารชิน ที่จำลองแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกอง เมืองพุกาม

ภายในวัดร่มรื่นด้วยต้นพิกุลเรียงรายกันอยู่โดยรอบ  หนึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ต้นหนึ่งที่อายุเก่าแก่ที่สุดกว่า 250 ปีขนาดลำต้นใหญ่ประมาณ 10 คนโอบ กิ่งก้านสาขาก็ยื่นสยายร่มเงา จนต้องมีเสาค้ำไว้เป็นระยะๆ 

และวัดตอจี Kyauktawgyi Pagoda หรือวัดพระหินอ่อน แกะสลักด้วยหยกขาวแท้

แวะซื้อของฝากพวกหยก กำไลหินอ่อนกันก่อนครับ เพราะพรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกันแล้ว สนนราคาหลักร้อยไปจนถึงลักแสนครับ เลือกได้ตามอัธยาศัย เจ้าของร้านเป็นคนเมียนมาร์ที่พูดไทยได้ชัดเจนครับ

ของที่ระลึกหุ่นโมเดลสะท้อนภาพชีวิต คติความเชื่อ วัฒนธรรมของเมียนมาร์เหล่านี้ราคาหลักพันขึ้นครับ งานละเอียดสวยงาม เหมาะเก็บไว้เป็นที่ระลึกมากครับ

ทาแป้งทานาคา วัฒนธรรมเฉพาะของชาวเมียนมาร์

ที่ระลึกคุณซูจี กับผ้านุ่งลายพื้นเมืองเมียนมาร์

ชนผ่าต่างๆในเมียนมาร์

ประมงในทะเลสาปอินเล

กษัตริย์บุเรงนอง

นักเรียนที่นี่ธรรมเนียมนุ่งกางเกง กระโปรงสีเขียวกันครับ

เลือกซื้อของฝากสำหรับที่บ้านกันจนหนำใจ ได้เวลาท้องร้องและหิวพอดี  มื้อเย็นวันนี้เราใช้บริการร้านอาหารที่อยู่ตรงข้ามพระราชวังซึ่งเราจะแวะมาในวันพรุ่งนี้ครับ Golden Duck

ร้านนี้ได้รับความนิยมมาก ที่นั่งแน่นขนัดทั้งจากนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น

และคืนนี้เรากลับมาพักที่เดิม ครับ

พรุ่งนี้เรานัดหมายกันเพื่อร่วมพิธีซึ่งเป้นสิริมงคลสำหรับตัวเอง เรามีนัดหมายร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี(The face washing ceremony for Mahamuni)ทำให้คืนนี้เราแทบจะนอนไม่หลับ ทั้งความตื่นเต้น และเกรงว่าจะตื่นไม่ทัน 

 

พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี(The face washing ceremony for Mahamuni)

เรานัดหมายเวลากันที่ 3 นาฬิกาครับ เพื่อไปให้ทันร่วมพิธีแต่เช้าตรู่

ตอนเรามาถึงนั้น นักท่องเที่ยวตางมารอกันจำนวนมากแล้ว ( ขนาดพากันตื่นเช้ามากแล้วน่ะครับ- เป็นบ้านเราอาจจะยังไม่ต้องเข้านอน ถือโอกาสอยู่ต่อร่วมพิธีแล้วจึงนอนยาวเลยก็อาจเป็นได้ ครับ)

มุ่งมั่นและศรัทธา

ก่อนตี 4 เล็กน้อยประตูด้านหน้าก็เปิดออก

ผู้คนต่างหลั่งไหลเดินเข้าไปและจับจองที่นั่ง ที่นี่อนุญาตให้เฉพาะเพศชายเท่านั้นที่สามารถนั่งใกล้ชิดและเข้าไปปิดทองได้ครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามลิงค์นี้ได้เลยครับ ผมได้ลงเอาไว้พักหนึ่งแล้ว

http://pantip.com/topic/33437050

เสร้จสิ้นพิธีราว 6 โมงเช้า เราเดินทางกลับมาเก็บของและทานมื้อเช้าที่โรงแรม และเตรียมเดินทางกลับ แต่เรามีนัดหมายแวะอีก 2ที่ก่อนกลับเมืองไทยครับ

พระราชวังมัณฑะเลย์(Mandalay Palace)

ซึ่งสร้างโดยพระเจ้ามินดง

เป็นพระราชวังสุดท้ายแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพม่าก่อนที่จะถูกทำลายโดยทหารอังกฤษ

พระราชวัง(เดิม)สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง และมีคูน้ำรอบพระราชวังและประตูที่ยิ่งใหญ่และเป็นพระราชวังที่สุดท้ายของพระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์คองบองและในประวัติศาสตร์พม่า

เมื่ออังกฤษเข้ายึดครองพม่าในสงครามโลกครั้งที่สอง ทางอังกฤษคิดว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของทหารญี่ปุ่น จึงได้ทำลายพระราชวังเสียด้วยการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1945 พระราชวังตกอยู่ในความเสียหายมาโดยตลอด จนปัจจุบันได้รับการบูรณะโดยรัฐบาลพม่า โดยการลอกแบบโครงสร้างเดิม

พระราชวังมัณฑะเลย์ปัจจุบันเป็นอาคารสร้างใหม่

ก่อนกลับเราปิดท้ายด้วยการเดินทางไปยังวัดชเวนันดอว์จอง (Shwe Nan Daw Kyaung) หรือวิหารไม้ทองคำ (Golden Palace Monastery) ตั้งอยู่ใกล้กับหุบเขามัณฑะเลย์ (Mandalay Hill)

เดิมเป็นพระตำหนักของพระเจ้ามินดง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่พระราชวังมัณฑะเลย์

ด้านหน้าทางเข้ามาศิลปินสร้างสรรค์ผลงานศิลปะให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ

ตรงข้ามเป้นมหาวิทยาลัยสงฆ์

เราเก็บความทรงจำดีๆของที่นี่ไว้ เพื่อนำกลับไปบอกเล่าเรื่องราวและความประทับใจในเพื่อนบ้าน ที่เปิดบ้านต้อนรับเราอย่างอบอุ่น และมีไมตรี ทุกที่ซึ่งเราเดินทางได้ลบภาพความน่ากลัวของรัฐบาลทหารในอดีตลง กลับพบแต่รอยยิ้มอย่างจริงใจแทน หวังว่าเราจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีก 

เราเดินทางกลับด้วยสายการบินแอร์เอเชีย แม้นักท่องเที่ยวจะเยอะ การบริการของภาคพื้นที่นี่กำลังพัฒนา แต่ทุกคนก็ถือสาและสนุกสนานประทับใจกับความทรงจำดีในทริปนี้มากมาย

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเดินทางไปด้วยกันครับ และขอขอบพระคุณพี่น้องศิษย์ร่วมสำนักทั้งทางตรงทางอ้อมที่ร่วมเดินทางมาเยือนมัณฑะเลย์ - พุกาม ในรูปแบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมกันอย่างสนุกสนานครับ แล้วเจอกันในทริปหน้าครับ 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทริปที่แสนยาวนานทริปนี้ ทุกคนคงได้อะไรไปเยอะทีเดียว เพราะมีรูปภาพและข้อมูลอย่างละเอียด ถ้าคิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่นี่ ทุกคนคงได้แนวทางกันแล้วนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ spras77

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook