13 ข้อควรรู้ ก่อนลัดฟ้าไปเที่ยวญี่ปุ่น!

‘Yokoso Japan’ ยินดีต้อนรับสู่ประเทศญี่ปุ่น หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมไปมากที่สุดในตอนนี้ช่วงเวลานี้ คงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นแน่นอน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ดอกซากุระและดอกไม้หลากชนิดกำลังผลิบาน เป็นช่วงที่อากาศดีสุดๆ ประกอบกับญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ในเรื่องของวัฒนธรรม อาหาร เครื่องแต่งกาย บ้านเมืองสะอาด ความน่ารักของผู้คน แถมยังมีสิ่งของน่ารักๆอีกมากมายให้เลือกสรรกันอย่างจุใจ แต่อย่างไรเสียต่างบ้านต่างเมืองก็ย่อมต่างวัฒนธรรมเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ ChicMinistry เลยรวบรวมเกร็ดความรู้ต่างๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นมาฝากก่อนจะเดินทางไปเที่ยวให้ได้ทราบกันค่ะ

1.คันโตชิดซ้าย คันไซชิดขวา: วัฒนธรรมการขึ้นบันไดเลื่อนหรือบันไดทั่วไปจัดได้ว่าเป็นที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นเลยค่ะ เพราะการยืนชิดอีกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง นอกจากเป็นการรักษาระเบียบวินัยแล้ว ยังเป็นการเอื้อเฟื้อความสะดวกแก่ผู้อื่นที่เร่งรีบด้วย ดังนั้นหากไปญี่ปุ่นล่ะก็จำไว้ว่า ขณะขึ้นบันไดเลื่อนควรยืนชิดซ้าย หากเร่งรีบให้เดินช่องทางขวามือ แต่หากไปเที่ยวแถบคันไซล่ะก็ ควรยืนชิดขวา และเดินในช่องซ้ายมือค่ะ

2. งดการพูดคุยโทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะโดยสารขนส่งสาธารณะเช่น รถประจำทางและรถไฟ รวมทั้งปิด เสียงโทรศัพท์และเปิด manner mode หรือระบบสั่น เพื่อไม่ไปรบกวนผู้อื่นค่ะ

3.การเข้าคิวเป็นเรื่องปกติที่ญี่ปุ่น: ไม่ว่าจะต่อคิวรอรถประจำทาง เข้าห้องน้ำ หรือรอคิวร้านอาหารและ ซื้อของตามร้านค้า ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้สูงอายุหรือเด็กก็ต้องรอคิว ก็ไม่มีการแซงหรือลัดคิวกัน เพราะทุกคนถือว่าต้องให้คนมาถึงก่อนได้รับบริการก่อนตามลำดับ และการแซงคิวในญี่ปุ่นถือว่าทำผิดกฎหมายเลยนะคะ

4.เวลาโดยสารลิฟต์ผู้ที่เข้าไปคนแรกควรกดเปิดประตูให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ เข้ามาในลิฟต์ และกดให้คนอื่นๆ ออกจากลิฟต์ไปก่อน หากไปที่ชั้นเดียวกัน เรื่องนี้ไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวนะคะ แต่ให้นึกไว้เสมอว่าหากคุณเป็นคนแรกที่เข้าลิฟต์ที่ญี่ปุ่นล่ะก็ คุณคือคนที่ต้องกดปิด-เปิดประตูลิฟต์ให้คนอื่นค่ะ

5.หลีกเลี่ยงการพูดคุยเสียงดังในที่สาธารณะเพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเคารพความเป็นส่วนตัวมากและถือว่าพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่บนรถไฟ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่สวนสาธารณะก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นเช่นกันค่ะ

6.ไม่ใช้ตะเกียบของเราคีบอาหารให้คนอื่นหากจะคีบอาหารให้คนอื่น ควรใช้ตะเกียบคู่ใหม่หรือใช้ตะเกียบของเราและกลับหัวตะเกียบเพื่อคีบอาหาร รวมทั้งผู้รับอาหารไม่รับอาหารโดยนำตะเกียบมาคีบรับ แต่ยื่นจานของเรามารับแทนค่ะ

7.การอาบน้ำแร่ร้อนต้องเปลือยผ้าทั้งหมดห้ามใส่เสื้อผ้า หรือห่อผ้าเช็ดตัวลงไปในน้ำ ผ้าผืนเล็กที่เอาเข้าไปด้วยก็ห้ามจุ่มลงในน้ำ ให้วางบนหัวหรือขอบสระ และก่อนลงแช่ต้องอาบน้ำให้สะอาดก่อนนะคะ เพราะคนญี่ปุ่นถือเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ

8.สำหรับคนสูบบุหรี่: ควรมีที่เขี่ยบุหรี่มือถือมาด้วย ห้ามทิ้งก้นบุหรี่หรือเขี่ยบุหรี่ลงพื้น บางเมืองมีกฎหมายปรับ คนทิ้งขยะ และบางเมืองยังห้ามเดินสูบบุหรี่อีกด้วยนะคะ

9.ควรทิ้งกระดาษทิชชู่ลงในชักโครก: ที่ญี่ปุ่นนั้นกระดาษทิชชู่เขาจะแยกอย่างชัดเจน กระดาษทิชชู่ที่ใช้ในห้องน้ำจะเป็นกระดาษที่มีเส้นใยสั้น ทำให้เปื่อยยุ่ยได้ง่าย ดังนั้นที่ญี่ปุ่นเขาจึงสามารถทิ้งกระดาษทิชชู่สำหรับใช้ในห้องน้ำลงในชักโครกได้โดยไม่ทำให้ชักโครกอุดตัน

10.ของหายได้คืนชัวร์ : คนญี่ปุ่นส่วนมากค่อนข้างมีวินัยสูง เรื่องที่หลายคนประทับใจคือเรื่องของหายที่มักได้คืนเกือบ 100% ยิ่งเฉพาะในรถไฟ ถ้าคุณบังเอิญลืมของเอาไว้ สามารถไปติดต่อจำหน้าที่สถานีรถไฟแล้วเตรียมรับของได้เลย

11.ไม่ต้องให้ทิป: คนญี่ปุ่นจะถือเรื่องการบริการที่ทำด้วยใจ ดังนั้นพนักงานในญี่ปุ่นจะไม่รับทิป หรือถ้าคุณวางเงินไว้บนโต๊ะ พนักงานก็อาจจะวิ่งตามนำเงินมาคืนคุณค่ะ

12.เมื่อต้องการได้รับบริการจากร้านค้า หากพนักงานกำลังให้บริการลูกค้าคนอื่นอยู่ก่อนหน้า ต้องรอจนกว่าจะมีพนักงานคนอื่นมาให้บริการหรือ จนกว่าพนักงานจะให้บริการลูกค้าคนก่อนหน้าเสร็จก่อน ไม่ควรแทรกด้วยการถามหรือเรียกให้มาบริการเราก่อนนะคะ

13.กฎสำหรับการชมดอกซากุระหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการไปชมดอกซากุระบานนั้นมีกฎข้อบังคับที่สำคัญด้วยนะ นั่นก็คือ “ห้ามจับต้นซากุระเด็ดขาด” รวมไปถึงการจับหรือเด็ดดอกซากุระด้วยนะคะเพราะพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้ต้นซากุระเฉาตายหรือทำให้ต้นซากุระบอบช้ำได้

สำหรับใครที่วางแผนกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ หรือใครที่มีแพลนจะไป อย่าลืมจำข้อควรปฏิบัติเหล่านี้ด้วยนะคะ เพื่อเป็นการเคารพกฎกติกา และให้เกียรติสถานที่ค่ะ แต่ยังไงก็ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ

Writer: Prairie

Source: www.facebook.com/hokkaidofanclub, www.manager.co.th

Cr Photo: pinterest 

ติดตามทุกเทรนด์ก่อนใครและอัพเดทข่าวชิคๆ

ได้ที่ www.chicministry.com, Facebook Fanpage : facebook.com/chicministry 

เนื้อหาโดย ChicMinistry