8 ที่น่าเที่ยวใกล้เมืองกรุง ที่เมืองปทุมธานี

8 ที่น่าเที่ยวใกล้เมืองกรุง ที่เมืองปทุมธานี

8 ที่น่าเที่ยวใกล้เมืองกรุง ที่เมืองปทุมธานี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชวนเที่ยววัดมอญงามตา เดินเล่นตลาดเก่ากินของอร่อย แล้วไปดูนกนานาชนิด ใครไม่อยากเดินทางไกลๆละก็...ปทุมธานีก็เป็นตัวเลือกที่ดีได้แต่ผ่านไปผ่านมาจนลืมไปเลยว่าปทุมธานีก็เป็นอีกจังหวัดที่เหมาะจะพาครอบครัวมาพักผ่อนวันหยุดใกล้กรุง และหากถือเอาแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเส้นแบ่งจังหวัดออกเป็นสองส่วน ทริปนี้เราเลือกเที่ยวกันเฉพาะโซนตะวันตก เพราะมีทั้งวัด ตลาด และชุมชนที่น่าสนใจ ในขณะที่ฝั่งตะวันออกมากมายไปด้วยพิพิธภัณฑ์ เรียกว่ามาวันเดียวก็เที่ยวไม่หมด

1. ชมเจดีย์ทอง ขับรถจากวัดโบสถ์มาไม่นานก็จะมาถึงวัดเจดีย์ทองที่สร้างขึ้นในสมัยกรุง-ศรีอยุธยา สิ่งที่เด่นสะดุดตาภายในวัดคือ เจดีย์ทองทรงรามัญ เนื่องจากเป็นวัดในชุมชนชาวมอญ ลักษณะการก่อสร้างคล้ายเจดีย์ในเมืองพุกาม ใกล้ๆ กันมีสถูปทรงระฆัง มีซุ้มโค้งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ด้าน ลงรักปิดทองประดับกระจกสี นับเป็นงานศิลปกรรมที่มีรายละเอียดงดงาม ใครชอบถ่ายรูปรับรองได้ใช้เวลาอยู่เป็นนานสองนาน

2.ไหว้หลวงพ่อโต วัดโบสถ์ วัดนี้อยู่ในเขตอำเภอสามโคก เมื่อข้ามสะพานแม่น้ำเจ้า- พระยาจะมองเห็นรูปปั้นเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำได้แต่ไกล ด้วยความสูง 28 เมตร ในปางเทศนาธรรม เราก็ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ที่ตั้งใจมานมัสการหลวงพ่อโตกันแต่เช้าตรู่ ผู้คนยังบางตา เสร็จแล้วแวะไปให้อาหารปลาริมแม่น้ำ ได้ทำบุญกันแต่เช้าพาให้ใจสบายไปทั้งวัน

3. ชมเจดีย์หอยสุดอลังการ ชมเจดีย์ที่สร้างขึ้นจากเปลือกหอยนางรมซึ่งขุดพบได้ในบ่อบริเวณวัด อายุของซากเปลือกหอยนางรมยักษ์โดยประมาณ 8 ล้านปี และสันนิษฐานว่ายังมีอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับเจดีย์หอยองค์เก่าได้ถูกรื้อลงเพื่อสร้างใหม่ นัยว่าให้สูงใหญ่เท่าเทียมกับพระอุโบสถ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าเก็บวัตถุโบราณต่างๆ เช่น โอ่ง ไห ถ้วยชามดินเผา และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอีกมากมายให้ชมกันเพลินๆ

4.ดูนกเล่นน้ำในนา ใครชอบดูนกและมีเวลา แวะที่วัดลำมหาเมฆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดเจดีย์หอย ชมนกหลายชนิดที่มาอาศัยอยู่ภายในวัดเนื่องจากมีบึงน้ำขนาดใหญ่ เช่น นกกระยางขวา นกกาน้ำ นกกระสา ฯลฯ หรือหากขับรถเล่นรับลมชมนาข้าวสลับสีสันทั้งสีเขียวและสีเหลือง สุดลูกหูลูกตาก็มีนกหลายชนิดให้ถ่ายภาพเพลินได้เหมือนกันสำหรับใครที่ชอบปั่นจักรยาน ลองมาปั่นไปถนนสายเล็กๆ ที่ปั่นลัดเลาะไปตามชุมชน แวะชมวัดเก่า แล้วปั่นลัดเลาะไปตามทุ่งนาชมนกชมไม้ รับรองว่าชิลล์สุดๆ

5.ไหว้พระหน้ายิ้มกับพระหน้าบึ้ง วัดสิงห์ หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับความศรัทธาของชาวสามโคกมานาน สันนิษฐานว่าวัดนี้มีมาก่อนชาวมอญจะอพยพหนีทัพพม่ามาอยู่ที่นี่ซะอีก ภายในวัดมีโบราณสถานที่น่าสนใจ เช่น วิหารโถงหรือศาลาดินที่กำลังอยู่ระหว่างบูรณะหลังน้ำท่วมใหญ่ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือหลวงพ่อโต และพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือหลวงพ่อเพชร รวมถึงพระยิ้มและพระหน้าบึ้ง ที่ดูๆ แล้วก็พลอยให้เราอมยิ้มและหน้าบึ้งตามไปด้วยใกล้กันมีวิหารน้อยเป็นอาคารรูปทรงท้องสำเภาหันหน้าสู่ทิศตะวันตก ขณะที่พระอุโบสถหันหน้าสู่ทิศตะวันออก นอกจากนี้ยังมีโกศพญากรายของอดีตเจ้าอาวาสวัด และพระแท่นบรรทมสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งเคยเสด็จฯ มายังวัดนี้ที่ทางวัดยังเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน

6. ดูเตาเผาตุ่มสามโคก เมื่อข้ามถนนจากฝั่งวัดสิงห์ก็จะเจอเตาเผาโบราณ เนื่องจากสามโคกได้ชื่อเป็นแหล่งผลิตตุ่มที่มีชื่อเสียง ทุกวันนี้ก็ยังคงร่องรอยของเตาโอ่งอ่างหรือเนินโคกเตาเผาเหลืออยู่เพียงสองแห่ง รูปร่างเตาเผาก่ออิฐตั้งเรียงกันคล้ายเรือคว่ำ เตาเผาแบบนี้เป็นภูมิปัญญาของชาวมอญที่ก่อเตาเพื่อเผาเครื่องปั้นดินจำหน่าย มีทั้งตุ่ม ครก หม้อไห และพระพุทธรูป แต่ที่รู้จักกันทั่วไปคือ ตุ่มสามโคกหรือตุ่มดินเผาเนื้อดินสีแดงนั่นเอง

7. ปลากรายผัดขี้เมา ร้านแปโภชนา ก่อนเที่ยวต่อในตอนบ่าย เราแวะมากินกลางวันที่ร้านอาหารเก่าแก่ประจำตลาดระแหงร้านอยู่ติดกับโรงงิ้วและศาลเจ้าระแหง จะนั่งชิลล์ๆ ริมคลองหรือนั่งหลังร้านที่ทางเข้าโรงงิ้วก็ได้ ร้านนี้มีเมนูเด่นๆ ที่ทำจากปลากรายและปลาช่อนอยู่หลายเมนู โดยเฉพาะลูกชิ้นปลากรายทำเองเหนียวเด้งเคี้ยวอร่อย เช่น ผัดขี้เมาปลากราย แกงป่าลูกชิ้นปลากราย ผัดพริกแกงปลากราย ต้มยำปลาช่อน ปลาช่อนผัดใบตังโอ๋ แล้วยังมีเมนูที่ลูกค้าชอบสั่งอย่างฮ่อยจ๊อหมูก็ทำเอง ใครมากินก็สั่งกันทั้งนั้น แล้วเราจะไม่สั่งได้ไงล่ะ ใครอยากไปลองชิมบ้าง แนะนำให้ไปตั้งแต่ยังไม่เที่ยงจะได้มีที่นั่งและไม่ต้องรอนานเลยเด้อ (โทร. 0-2599-1398)

8. เดินเล่นตลาดร้อยปีระแหง ตลาดตั้งอยู่ริมคลองระแหงในอำเภอลาดหลุมแก้ว เคยได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ชุมชนดั้งเดิม ซึ่งทุกวันนี้สองฝั่งตลาดยังเป็นห้องแถวไม้เรียงราย อวลด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ในวันธรรมดาจะมีร้านค้าเปิดขายไม่กี่ร้าน แต่ก็เดินสบายกว่าตลาดจัดสร้างเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นไหนๆ เช่น บ้านของตระกูลสุทธาภิรมย์พาณิชที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ชมข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ โดยไม่เก็บตังค์ค่าชม ร้านไถ่เฮงการประมงอายุกว่า 90 ปี นอกจากนี้ ยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ แวะกินไอติมกะทิทรงเครื่อง ไปดูร้านตัดผมรุ่นคุณปู่คุณย่า และอีกหลายร้านที่ผู้ใหญ่ล้วนแต่ยิ้มรับนักท่องเที่ยวกันทั้งนั้น

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook